ผลงานวิจัยไทย เครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ ฝีมือไทย โดยสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬา เป็นผลสำเร็จ
ผลงานวิจัยไทยเครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ โดย รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ไศละสูต หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยโรคมะเร็งในสัตว์เลี้ยง ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลงานการพัฒนาอุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็ง อุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็งดังกล่าวออกแบบโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ตามโจทย์ของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬา และใช้ชิปที่ผลิตขึ้นโดยศูนย์เทคโนโลยีไทยไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ก้าวแรกคัดแยกอนุภาคเรียงตามขนาดได้ตามต้องการด้วยอุปกรณ์คัดแยกเซลล์นั้นอาศัยชิปที่มีช่องรับของเหลว 2 ช่อง เป็นของเหลวจากสัตว์และสารละลายลดความข้นหนืด ซึ่งใช้ปั๊มป์ฉีดเพื่อควบคุมอัตราการไหลของของเหลวลงช่องดังกล่าว จากนั้นเมื่อของเหลวผสมกันแล้วจะไหลไปตามท่อที่ขดเป็นวงบนชิป และมีทางแยกสำหรับคัดแยกอนุภาคหรือเซลล์ขนาดต่างๆ 10 ทาง ของเหลวที่ผ่านมาการคัดแยกจะไหลเข้าหลอดฉีดยาสำหรับเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปศึกษาพฤติกรรมของเซลล์ต่อไป และศึกษาพฤติกรรมการแพร่กระจายของมะเร็ง
รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา เผยว่า การพัฒนาอุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็งมีจุดเริ่มต้นมาจากโจทย์ของสัตวแพทย์ที่ต้องการศึกษาเซลล์เดี่ยว ซึ่งในร่างกายนั้นมีเซลล์อยู่หลายเซลล์ แต่สัตวแพทย์อยากรู้ว่าเซลล์ตัวใดที่ทำให้เกิดการแบ่งตัวผิดปกติหรือแพร่กระจายของมะเร็ง ด้าน ผศ.ดร.อลงกรณ์ พิมพ์พิณ จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายถึงแนวคิดในการออกแบบอุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็งว่ามีขนาดประมาณ 40 ไมครอนเทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เมือได้รับโจทย์จากสัตวแพทย์ที่ต้องการศึกษาชีวภาพของเซลล์ ดังนั้นต้องไม่ใช้แรงกระทำภายนอกที่ทำให้เกิดผลกระทบทางชีวภาพของเซลล์ จึงใช้แรงกลที่ผลต่อเซลล์น้อยที่สุด
ทีมวิจัยเครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ได้ใช้หลักการไหลจุลภาค (micro fluid) โดยปล่อยให้ของเหลวไหลผ่านท่อโค้ง ซึ่งทำให้เกิดแรงดีน (Dean) ที่เกิดเนื่องจากการไหลหมุนวนในหน้าตัดท่อโค้ง ซึ่ง ผศ.ดร.อลงกรณ์ อธิบายว่า แรงดีนจะช่วยแยกเซลล์ขนาดต่างๆ ได้ เนื่องจากจะเกิดแรงดีนที่แตกต่างกันไปตามขนาดของเซลล์หรืออนุภาค ขนาดของเซลล์นั้นมากและมีขนาดประมาณ 40 ไมครอน สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า 1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า จึงไม่สามารถใช้แรงภายนอกเพื่อคัดแยกเซลล์ออกมาได้ ส่วนขนาดหน้าตัดของท่อโค้งคือ 130x500 ไมครอน จึงไม่สามารถสร้างด้วยเทคโนโลยีปกติ ต้องใช้เทคโนโลยีของ TMEC ผศ.ดร.อลงกรณ์กล่าว
ด้าน วิศรุต ศรีพุ่มไข่ หนึ่งในทีมวิจัยจาก TMEC อธิบายถึงการพัฒนาชิปว่า ต้องมีแม่แบบโดยจะใช้เทคโนโลยีอะไรก็ได้ แต่ต้องสร้างให้ได้ขนาดเล็กและตรงตามแบบที่ต้องการ ซึ่ง TMEC มีความเชี่ยวชาญในการผลิตแผ่นซิลิกอนเวเฟอร์ และได้นำมาประยุกต์ในการทำชิปขนาดเล็ก โดยในขั้นตอนการผลิตชิปสำหรับอุปกร์ณคัดแยกเซลล์นี้ได้ใช้พอลิเมอร์ PDMS ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่ไม่เป็นพิษและมีความใส เทลงบนแม่พิมพ์ซึ่งเป็นแผ่นซิลิกอน จากนั้นลอกออกมาแล้วประกบกับกระจก จึงได้ชิปที่มีร่องให้ของเหลวไหลผ่านได้
จากการความร่วมมือในการพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าว รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยาระบุว่า การคัดแยกอนุภาคเม็ดพลาสติกขนาดต่างๆ ได้ผลดี โดยเป้าหมายต่อไปคือการคัดแยกเซลล์จริงให้มีชีวิตรอดได้ ซึ่งจากการทดลองในเซลล์สุนัขที่ผ่านมายังพบว่าเซลล์แตกและตายระหว่างคัดแยก เนื่องจากเซลล์ที่แยกออกมาจากร่ากายนั้นมีสภาพอ่อนแอมาก ไม่ทนต่อแรงที่ใช้ในการคัดแยก และอีกเป้าหมายคือการทำหลุมรองรับเซลล์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมของเซลล์หลังการคัดแยกได้ทันที โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีจึงได้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
Cr.ข่าวผู้จัดการ
No comments:
Post a Comment