เครือข่ายพลเมืองเน็ต ยื่นรายชื่อประชาชนกว่า 3 แสนชื่อ คัดค้าน พรบ คอม เชื่อมโยง ซิงเกิลเกตเวย์
วันนี้ ที่รัฐสภา พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) พ.ศ.... กล่าวถึงกรณีเครือข่ายพลเมืองเน็ตและองค์กรนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย (แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล) ยื่นรายชื่อประชาชนกว่า 3 แสนชื่อ กระแสคัดค้านร่าง พรบ คอม ให้ สนช.ลงมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ในวาระ 2 และ 3 วันที่ 16 ธ.ค.ว่า ยืนยันว่า กมธ.พิจารณาปรับปรุงเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้มีความชัดเจน และรัดกุมมากขึ้นกว่าร่างที่ส่งมาในวาระรับหลักการ
ส่วนเนื้อหาที่แก้ไขมีความชัดเจนมากขึ้น แต่สิ่งที่ภาคประชาชนกังวล เพราะเข้าใจผิดว่าจะนำเรื่องซิงเกิลเกตเวย์มารวมอยู่ในกฎหมาย พรบ คอม นี้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไม่ได้นำเรื่องซิงเกิลเกตเวย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะเรื่องซิงเกิลเกตเวย์จะเป็นกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง แยกออกจาก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สมาชิก สนช.กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีระบุว่า ความผิดที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประเทศในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นการกำหนดนิยามที่กว้างมากนั้น ผู้ที่จะใช้ดุลยพินิจตีความว่า เรื่องใดขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศและศีลธรรมอันดี คือศาล ไม่ใช่ดุลยพินิจของคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ 5 คน ที่รัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นมา คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะทำหน้าที่เพียงส่งเรื่องที่เห็นว่า น่าจะเข้าข่ายขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ หรือศีลธรรมอันดีไปให้รัฐมนตรีพิจารณาเพื่อส่งเรื่องต่อไปให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาดในขั้นสุดท้าย
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามปลุกกระแสคัดค้านร่าง พรบ คอม หรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ที่ สนช.มีมติเห็นชอบให้ผ่านวาระที่ 2 ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.59 และจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 3 ในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.59) โดยเชื่อมโยงสาระสำคัญของกฎหมายเข้ากับแนวคิดซิงเกิลเกตเวย์ในทำนองว่า จะเป็นกฎหมายล้วงข้อมูลส่วนบุคคล
พรบ คอม เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไม่มีแนวคิดที่จะออก พรบ คอม ดำเนินการซิงเกิลเกตเวย์แต่อย่างใด แต่คนกลุ่มนี้ก็พยายามสร้างกระแสต่อต้านโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีสำนักข่าวออนไลน์ได้นำเสนอข่าวว่า "เครือข่ายพลเมืองเน็ตได้ล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อคัดค้านกฎหมาย พรบ คอม ดังกล่าวแล้วกว่า 20,000 รายชื่อ พลโท สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลขอให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยคุ้มครองและสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ รวมทั้งรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ไม่ใช่การคุกคามสิทธิส่วนบุคคลตามที่มีการกล่าวอ้าง โดยขอให้กลุ่มผู้ไม่หวังดียุติพฤติกรรมบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือสร้างความแตกแยกในทันที
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ร่าง พรบ คอม.ดังกล่าว เป็นร่างแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2550 ให้มีความทันสมัย เหมาะสมกับเวลาและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีสาระสำคัญที่แท้จริงคือการเพิ่มฐานความผิดและบทลงโทษให้ครอบคลุมเรื่องต่างๆ เช่น การเจาะทำลายระบบความมั่นคงของประเทศ ความผิดฐานส่งสแปมหรือข้อความที่ผู้รับไม่ได้ร้องขอ การนำเข้าข้อมูลเท็จ การเผยแพร่เนื้อหาหรือภาพตัดต่อที่ผิดกฎหมาย การให้ผู้กระทำผิดรับโทษตามกฎหมายอาญาอื่นๆ ไม่เฉพาะแต่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เพียงอย่างเดียว เป็นต้น
Cr.ข่าวไทยรัฐ
No comments:
Post a Comment