ผิวหนังเทียม “E-Skin” ที่บางเพียง 3 ไมครอน พร้อมจอแสดงผลสุขภาพ สามารถปะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
หากมนุษย์จะมีผิวหนังเทียมอัจฉริยะแปะตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า ข้อมือ และทำหน้าที่แสดงผลความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นให้เจ้าของร่างกาย และทีมแพทย์ได้ทราบ เพราะวันนี้นักวิจัยของญี่ปุ่นได้ทำการพัฒนาแผ่นผิวหนังเทียมที่บางเพียง 3 ไมครอนซึ่ง 1 ไมโครมิเตอร์ เท่ากับ 1 ในพันของมิลลิเมตร (1/1,000 มิลลิเมตร) ที่สามารถวัดได้จากอุปกรณ์เครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เท่านั้นจึงจะวัดความหนาได้ ซึ่งบางมาก ๆ เจ้าผิวหนังเทียมสามารถเป็นจอแสดงผลแปะติดบนร่างกายได้ อนาคตอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป
นอกจากนั้น ตัวแผ่นผิวหนังเทียมที่บางเพียง 3 ไมครอนนี้ยังสามารถยืด ย่นได้ตามการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยไม่เกิดความเสียหายต่อระบบการแสดงผล ทำหน้าที่แสดงผลความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นให้เจ้าของร่างกายและสามารถติดทนได้นานหลายวัน ขณะที่ผลงานการวิจัยชิ้นก่อนหน้านั้นผิวหนังเทียมจะสามารถติดบนร่างกายได้นานไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
โดยความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลงานของ 2 นักวิจัยชาวญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยโตเกียวอย่าง ศาสตราจารย์ทาคาโอะ โซเมยะ (Prof.Takao Someya) และ ดร.โทโมยูกิ โยโกตะ (Dr.Tomoyuki Yokota) ซึ่งมีผลงานวิจัย และพัฒนาในสายงานด้านผิวหนังเทียมดังกล่าวมายาวนานนั่นเอง เพื่อให้ได้ผิวหนังเทียม “E-Skin” ที่บางเพียง 3 ไมครอน หรือ 3 ในพันของมิลลิเมตร (3/1,000 มิลลิเมตร) จากอุปกรณ์เครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)
อย่างไรก็ดี แผ่นผิวหนังเทียมอัจฉริยะนี้ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ซึ่งการแสดงผลนั้นยังต้องพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าอยู่ และแน่นอนว่า มันยังไม่สามารถอ่านค่าอะไรได้เลย แต่แนวคิดของ 2 นักวิจัยที่จะพัฒนามันให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปนั้นน่าสนใจมาก โดยเฉพาะ ดร.โซเมยะ ที่มองว่า โลกจะเปลี่ยนแปลงไปอีกมากหากอนาคตมนุษย์มีผิวหนังเทียมแสดงเป็นหน้าจอแสดงผลติดอยู่บนร่างกาย และสามารถแสดงได้ว่า สภาพอารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร ระดับความเครียดสูงหรือไม่ หรือกำลังรู้สึกวิตกกังวลอยู่หรือเปล่า หรือมากไปกว่านั้นมันอาจทำหน้าที่เป็นเครื่องมือแจ้งเตือน เครื่องมือสื่อสารได้เลยก็เป็นได้
แน่นอนว่าบางคนอาจไม่ชอบที่จะต้องใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว เพราะอาจมีบางเรื่องที่ต้องการปกปิด แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่า เทคโนโลยีนี้หากพัฒนาสำเร็จจะมีความจำเป็นอย่างสูงในทางการแพทย์ ยิ่งหากทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ ด้วยแล้ว อาจสามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคต่างๆ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้สามารถสื่อสารกับคนในครอบครัว หรือกระทั่งผู้ดูแลให้เข้าใจในความต้องการของตนเอง และช่วยให้การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มีความสุขมากยิ่งขึ้น
Cr.ข่าวผู้จัดการ
No comments:
Post a Comment