ปักกิ่ง เทียนจิน เหอเป่ย เหอหนัน และซันตง เตรียมรับมือคลื่นมลพิษทางอากาศ ฝุ่นพิษขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ระลอกใหญ่ที่สุดของปี
นครหลวงแดนมังกรประกาศเตือนภัยสภาพอากาศระดับสูงสุด (สีแดง) ของรัฐบาลเทศบาลนครปักกิ่ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของปีนี้ เกิดขึ้นหลังจากรายงานพยากรณ์อากาศระบุว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของปักกิ่ง เทียนจิน เหอเป่ย เหอหนัน และซันตง จะต้องเผชิญกับกลุ่มหมอกควันหนาทึบระหว่างคืนวันศุกร์ถึงคืนวันพุธ (16-21 ธ.ค.) ของสัปดาห์หน้าที่ประกอบไปด้วยฝุ่นพิษขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน โดยในวันนี้ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงปักกิ่งจะควบคุมการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชนให้เป็นไปตามวันที่กำหนด โดยอ้างอิงจากหมายเลขทะเบียนรถว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ ซึ่งจะทำให้ปริมาณรถยนต์ที่สัญจรไปมาลดลงราวครึ่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของจีนกล่าวว่า การโจมตีของหมอกมลพิษระยะเวลากว่าหกวันคราวนี้อาจเลวร้ายที่สุดในรอบปี และส่งผลกระทบต่อเมืองต่าง ๆ กว่า 20 แห่ง อย่างไรก็ดี เมืองและมณฑลใกล้เคียงอื่น ๆ กลับยังไม่มีการประกาศเตือนภัยสภาพอากาศเหมือนเมืองหลวง แม้จะมีรายงานว่าราวสามส่วนของฝุ่นพิษขนาดเล็กที่พบในหมอกควันซึ่งปกคลุมปักกิ่งก่อนหน้านี้เป็นฝุ่นพิษขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน จะพัดผ่านมาจากพื้นที่ใกล้เคียงก็ตาม จึงสั่งโรงงานชะลอการผลิต จำกัดปริมาณรถบนท้องถนน เตรียมรับมือคลื่นมลพิษทางอากาศระลอกใหญ่ที่สุดของปี
กระทรวงป้องกันสิ่งแวดล้อมของจีนเผย (14 ธ.ค.) ว่า คุณภาพอากาศของ 74 เมืองทั่วประเทศได้ย่ำแย่ลงในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยค่าเฉลี่ยพีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นพิษขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนโดยที่ 1 ไมครอน เท่ากับ 1 พันของมิลลิเมตร (1/1,000 มิลลิเมตร) ที่สามารถวัดได้จาก เครืองมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เท่านั้น ซึ่งจะก่ออันตรายอย่างยิ่งยวดต่อระบบทางเดินหายใจเพราะมีขนาดเล็กมากเล็ดลอดเข้าระบบทางเดินหายใจได้ โดยฝุ่นพิษได้ เพิ่มขึ้น 7.4 เปอร์เซ็นต์ เป็น 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ค่าความเข้มข้นเฉลี่ยของพีเอ็ม 2.5 ในภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย ก็ดีดตัวพุ่งพรวดกว่า 8.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีกลาย ทำให้อากาศอัดแน่นไปด้วยฝุ่นพิษกว่า 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำค่าปลอดภัยไว้ไม่เกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ทั้งนี้ ระบบเตือนภัยสภาพอากาศของจีนแบ่งออกเป็น 4 ระดับตามความรุนแรงมากไปหาน้อย ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำเงิน โดยในระดับสูงสุด (สีแดง) ทางการจะสั่งจำกัดการใช้ยานยนต์ หยุดหรือลดการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรม ห้ามจุดพลุประทัดหรือปิ้งย่างอาหารกลางแจ้ง รวมถึงแนะนำประชาชนลดการทำกิจกรรมนอกบ้าน และโรงเรียนอาจงดการเรียนการสอนชั่วคราว
Cr.ข่าวผู้จัดการ
No comments:
Post a Comment