Friday, December 30, 2016

เทคโนโลยีนาโน กำลังถูกนำมาใช้กับ ยาปฏิชีวนะ อนุภาคนาโน สำหรับต้านมะเร็ง ถูกนำบรรจุอยู่ในภาชนะขนาดจิ๋ว เพื่อนำส่งไปที่เนื้องอก

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)

เทคโนโลยีนาโน กำลังถูกนำมาใช้กับ ยาปฏิชีวนะ อนุภาคนาโน สำหรับต้านมะเร็ง ถูกนำบรรจุอยู่ในภาชนะขนาดจิ๋ว เพื่อนำส่งไปที่เนื้องอก


เทคโนโลยีนาโน กำลังถูกนำมาใช้กับยา เป็นอนุภาคนาโน คือตัวยาที่ถูกบรรจุอยู่ในภาชนะขนาดจิ๋วที่มีประสิทธิภาพในการนำส่งยาไปที่เนื้องอก ซึ่งมันเปรียบเสมือนกระสุนปืนที่ถูกยิงเข้าไปต่อสู้กับมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ยาสำหรับรักษามะเร็งในปัจจุบันนี้ ซึ่งมักถูกสร้างขึ้นในรูปของอนุภาคนาโนนั้น ไม่สามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยรวมของ ผู้ป่วยโรคมะเร็งมากนัก นักวิจัยจาก University of North Carolina ที่เมือง Chapel Hill ได้คิดว่าความล้มเหลวนี้ ไม่น่าเกิดจากตัวยากับเนื้องอก แต่มันอาจจะเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมโดยรอบเนื้องอกที่มีขนาดเล็กระดับไมครอนต่างหาก

งานวิจัยได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ลงในวารสาร Clinical Cancer Research ซึ่งได้รวมเอาแนวความคิดในการรักษาทั้งเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน ปัจจัยหนึ่งก็คือ การเน้นย้ำถึงความสำคัญของตัวยาเฉพาะของคนไข้แต่ละราย และอีกอย่างหนึ่งคือ การผลักดันความคิดที่ค่อนข้างใหม่ที่ว่า สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เนื้องอกขนาดเล็กขนาดไมครอน สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า อาจจะมีผลต่อการนำส่งยาอนุภาคนาโนสู่เนื้องอก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจะเปลี่ยนระบบการนำส่งยาจากคนสู่คน จากมะเร็งสู่มะเร็ง หรือแม้แต่จากเนื้องอกสู่เนื้องอก

William Zamboni ผู้เขียนงานวิจัยและรองศาสตราจารย์จาก UNC Eshelman School of Pharmacy ได้กล่าวว่า “เนื้องอกทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ ขนาดไมครอนรอบ ๆ ตัวมันเลวร้ายลง เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เล็กขนาดนั้นเชียว โดยพวกมันจะไปทำลายหลอดเลือดบริเวณรอบๆ ให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เกิดการรั่วซึม การไหลเวียนของเลือดติดขัด มันเปรียบเสมือนถนนที่ผุพัง ตรอกที่เป็นทางตัน และท่อระบายน้ำที่อุดตัน ช่องว่างต่างๆ จะเต็มไปด้วยเส้นใยคลอลาเจน ที่เติบโตมากเกินไปอย่างผิดปกติ เซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันที่ลาดตระเวนตามถนนจากที่เป็นผู้ตรวจตราที่ดีก็อาจจะกลายเป็นแย่ก็เป็นไปได้ เพื่อทำให้เนื้องอกทำงานได้สะดวกขึ้น ในขณะที่พวกเราก็พยายามที่จะบรรทุกตัวยาจำนวนมากผ่านทางที่สับสนวุ่นวายเหล่านี้”

ในงานของพวกเขานี้ Zamboni และคณะจาก UNC Lineberger Comprehensie Cancer Center และ UNC School of Medicine ได้รวมพลังกันเพื่อดูว่า จะมีตัวยาปริมาณเท่าใดที่ไปถึงเนื้องอก โดยใช้ยารักษามะเร็งโมเลกุลเล็กขนาดระดับไมครอนตามมาตรฐานอย่าง Doxorubicin (ยาปฏิชีวนะสำหรับต้านมะเร็ง) และอนุภาคนาโนของมัน (Doxil) ในการศึกษากับมะเร็งเต้านมต้นแบบ 2 ชนิดเพื่อทำการเปรียบเทียบ (C3-TAg และ T11)

ซึ่งได้ใช้ต้นแบบมะเร็งเต้านมแบบ triple-negative breast-cancer tumor model ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมแบบ Triple-negative breast cancer นี้คิดเป็น 10-17% จากผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด และสามารถคาดคะเนอาการของโรคได้ยากกว่ามะเร็งเต้านมชนิดอื่นๆ ยาปฏิชีวนะสำหรับต้านมะเร็งที่สร้างขึ้น โดยศาสตราจารย์ Chuck Perou จาก UNC Lineberger ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงทางสาขาวิทยามะเร็งระดับโมเลกุล (May Goldman Shaw Distinguished Professor of Molecular Oncology) ที่ UNC School of Medicine

ในลำดับแรก สิ่งที่พวกเขาค้นพบก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้แปลกใจมากนัก กล่าวคือ อนุภาคนาโนของ Doxil เข้าทำกับเนื้องอก Triple-negative breast cancer ทั้งคู่และให้ผลที่เด่นชัดกว่าตัวยา Doxorubicin ซึ่ง Zamboni ได้กล่าวว่า “มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเห็นผลแบบนี้กันมาเป็นเวลา 20 ปีมาแล้ว” และพวกเขาก็ยังเห็นปริมาณ Doxorubicin ที่เท่ากันในเนื้องอก Triple-negative breast cancer ทั้งสองชนิดเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจก็คือ การที่อนุภาคนาโนของยา Doxil มีปริมาณมากในเนื้องอกมากกว่าถึงสองเท่าก็คือ พวกมันถูกลำเลียงเข้าสู่เนื้องอก C3-TAg triple-negative breast cancer tumor มากกว่าจะถูกขนส่งไปที่เนื้องอก T11 triple-negative breast cancer tumor

Zamboni และคณะได้แนะนำว่า เนื้องอกเล็กขนาดไมครอนเหล่านี้คือ ชนิดย่อยของชนิดย่อยของมะเร็งชนิดหนึ่งและมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก ถ้าความแตกต่างในการนำส่ง อนุภาคนาโนของเนื้องอกมะเร็งเต้านมสองชนิด ยังแตกต่างกันได้ขนาดนี้ งั้นเราก็สามารถจินตนาการได้ถึงความแตกต่าง ระหว่างมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอด การรวบรวมข้อมูลของเนื้องอกและสภาพแวดล้อมของเนื้องอกที่ดีขึ้นอาจจะทำให้แพทย์ไม่เพียงแต่ระบุแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่ดีขึ้น ซึ่งอนุภาคนาโนอาจจะให้ประโยชน์สูงที่สุด แต่ยังรวมไปถึงแพทย์ อาจจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเนื้องอกของผู้ป่วยมากขึ้นก่อน ที่จะออกแบบการรักษาด้วยอนุภาคนาโนตัวใดตัวหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่

Zamboni ได้กล่าวว่า มันเปรียบเสมือนสภาพแวดล้อมของเนื้องอก อาจจะมีบทบาทสำคัญในการรักษามะเร็ง มันอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยชี้ทางที่ถูกต้องในการรักษามะเร็งของผู้ป่วยแต่ละรายระหว่างมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอด ซึ่งไม่เพียงแค่มะเร็งเต้านม triple-negative breast cancer tumor แต่ยังรวมไปถึงมะเร็งชนิดอื่นอีกด้วย โดยที่แพทย์ อาจจะต้องเรียนรู้เนื้องอกของผู้ป่วยมากขึ้นก่อน ที่จะออกแบบการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะสำหรับต้านมะเร็งอนุภาคนาโนตัวใดตัวหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่

Cr.วิชาการ

Thursday, December 29, 2016

อากาศ และ อุณหภูมิ ไทยตอนบน เหนือ อีสาน อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา กับมีลมแรง กทม อากาศเย็นลง ส่วนภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น อ่าวไทยคลื่นสูง 2-4 เมตร

อากาศ อุณหภูมิ


อากาศ และ อุณหภูมิ ไทยตอนบน เหนือ อีสาน อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา กับมีลมแรง กทม อากาศเย็นลง ส่วนภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น อ่าวไทยคลื่นสูง 2-4 เมตร 


กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศ และ อุณหภูมิ ประจำวันศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 2559 โดยประเทศไทยตอนบนมีอากาศ และ อุณหภูมิ หนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2560 ไว้ด้วย

สำหรับในช่างวันที่ 30 ธันวาคม 2559 - 1 มกราคม 2560 บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากไว้ด้วย และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง จะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 - 1 มกราคม 2560 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีผลต่ออากาศ และ อุณหภูมิในประเทศไทย และจะปกคลุมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง มีผลกระทบต่อภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และ กรุงเทพฯ แต่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

อากาศ และ อุณหภูมิ ภาคเหนือนั้น อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 4-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง  อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

Cr.ข่าว Voice TV

Wednesday, December 28, 2016

เครื่องกรองน้ำ กำจัดสิ่งเจือปน ที่มีขนาดเล็กกว่า 0.001 มิลลิเมตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้น้ำดืมสะอาดบริสุทธ์ สุขภาพทีดี ในวันนี้และอนาคต

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)

เครื่องกรองน้ำ กำจัดสิ่งเจือปน ที่มีขนาดเล็กกว่า 0.001 มิลลิเมตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้น้ำดืมสะอาดบริสุทธ์ สุขภาพทีดี ในวันนี้และอนาคต


การดื่มน้ำสะอาดมีผลต่อสุขภาพที่ดี ไม่มีใครปฏิเสธคำกล่าวที่ว่า น้ำคือสิ่งสำคัญของชีวิต หากวันนี้เราดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมแล้วหรือยัง นอกจากน้ำดื่มแล้วน้ำใช้ในการล้างผักผลไม้หรืออาหารอื่นๆ ก็มีความสำคัญต่อสุขภาพเช่นกันเราสามารถดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสมได้ทุกวัน มีน้ำสะอาดสำหรับเตรียมอาหาร (ล้างผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์) ได้ที่บ้านเราเองโดยไม่ต้องออกไปหาซื้อน้ำดื่มจากที่ไหนเลย
การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสม มีผลต่อสุขภาพที่ดีในวันนี้และอนาคตที่สดใสแน่นอน

เพียงเรามีเครื่องกรองน้ำติดบ้านไว้ เครื่องกรองน้ำโดยทั่วไปก็จะกรองได้หลาย ๆ ชั้น เครื่องกรองน้ำระบบกรอง RO มีทั้งระบบการกรองแบบ UF และแบบ RO เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยสูงสุดในตลาดเครื่องกรองน้ำในตอนนี้ มีทั้งหลายยี่ห้อและหลายค่าย แต่ที่เขาโฆษณากัน ก็มีของค่าย  LG ที่ระบบกรอง UF จะช่วยกำจัดสารปนเปื้อนในน้ำเช่น สารที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง สารคอลลอยด์ โมเลกุลโพลิเมอร์ อินทรีย์/อนินทรีย์แบคทีเรีย และอื่นๆ ตัวกรอง UF สามารถกรองสารเหล่านี้ได้โดยใช้แผ่นกรองความถี่ที่มีรูขนาด 0.1 - 0.001 มิลลิเมตร ความละเอียดขนาดนี้เราสามารถวัดสารปนเปื้อนได้จากอุปกรณ์เครืองมือวัดประเภท ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) ที่วัดความละเอียดได้ถึง 0.001 mm / 0.00005 inch เลยทีเดียว

โดยเครื่องกรองน้ำมีขั้นตอนในการกรอง 4 ขั้นตอนจะช่วยกำจัดสารปนเปื้อนในน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอินทรีย์/อนินทรีย์แบคทีเรีย และอื่นๆ ดังนี้ ตัวกรองขั้นตอนที่ 1 และ 2 ช่วยกำจัด ตะกอน สนิม สารอินทรีย์
และสารอนินทรีย์ส่วนตัวกรองขั้นตอนที่ 3 และ 4 ช่วยกรองแบคทีเรีย สารปรอท กลิ่นและเพิ่มรสชาติให้น้ำอีกด้วยในขณะที่ระบบกรอง RO สามารถกำจัดสิ่งเจือปนที่มีขนาดเล็กกว่า 0.001 มิลลิเมตร ความละเอียดขนาดนี้เราสามารถวัดพิสูจน์ได้ด้วย ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) ที่วัดความละเอียดได้ถึง 0.001 mm / 0.00005 inch เลยทีเดียว ได้การกรองอย่างมีประสิทธิภาพและได้น้ำดื่มที่มีความบริสุทธิ์สูงสุด

ระบบการกรอง RO ที่มีขั้นตอนในการกรองทั้งหมด 8 ขั้นตอน ซึ่งไม่เพียงกรองให้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ยังเก็บน้ำที่กรองแล้วให้สะอาดถูกสุขลักษณะเสมอกรองน้ำให้บริสุทธิ์ด้วย 8 ขั้นตอน ได้แก่ขั้นตอนที่1: กรองตะกอน ฝุ่น โคลน เศษผงต่างๆ ขั้นตอนที่2: กรองตะกอนขนาดเล็กละเอียดได้ถึง 0.001 mm / 0.00005 inch เลยทีเดียว และสารปนเปื้อนต่างๆในน้ำ ขั้นตอนที่3: กรองสารอินทรีย์ สารอนินทรีย์ขั้น ตอนที่4: กรองสารโลหะหนัก สารอินทรีย์ แบคทีเรีย ไวรัส ขั้นตอนที่5: ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในน้ำ และช่วยเพิ่มรสชาติของน้ำดื่มด้วย

ขั้นตอนที่6: เก็บน้ำในแท้งค์เก็บน้ำแสตนเลสสตีล ป้องกันการปนเปื้อนยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้น้ำดื่มความสะอาดบริสุทธิ์เสมอ ขั้นตอนที่7: กำจัดเชื้อโรคต่างๆภายในน้ำ โดยเทคโนโลยี UV CircularSterilizer ขั้นตอนที่8: กำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ โดยเทคโนโลยี ElectrolysisSterilizing Care ทำให้น้ำดื่มที่ได้สะอาดบริสุทธิ์ เครื่องกรองน้ำระบบ RO เหมาะสำหรับผู้ใช้น้ำประปามีสารละลาย
แคลเซียมไฮดรอกไซด์ หรือครอลีนเจือปนผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ ที่มีมลพิษทางน้ำ หรือผู้ที่มีผู้คุ้มกันอ่อนแอ เช่นผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เด็ก เป็นต้น

อย่างไรก็ดีน้ำดื่มที่สะอาดถูกสุขอนามัยนอกจากระบบในการกรองน้ำแล้ว ระบบ DigitalSterilizing Care และแท้งค์น้ำแสตนเลสสตีลยังมีส่วนสำคัญที่ทำความสะอาดเส้นทางการไหลของน้ำ ตามที่เครื่องกรองน้ำ LG แจ้งมาว่าทั้งระบบ UF และ RO มาพร้อมกับนวัตกรรม Digital SterilizingCare ที่จะช่วยทำความสะอาดเครื่องและเส้นทางไหลของน้ำได้หมดจด โดยปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายและยังมาพร้อมกับตัวแท้งค์น้ำแสตนเลสสตีลที่มีระบบป้องกันสองชั้นที่รักษาน้ำให้สะอาดบริสุทธิ์เสมอ

ซึ่งจากผลการทดสอบพบว่าช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ถึง 90% และยังทำให้ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือตะไคร่น้ำอีกด้วยเครื่องกรองน้ำ ทั้งระบบUF และ RO มีเทคโนโลยี ElectrolysisSterilizing Care หรือชุดทำความสะอาดเฉพาะของแอลจีที่ช่วยทำความสะอาดเส้นทางการไหลของน้ำตั้งต่อท่อส่งน้ำ แท้งค์น้ำ และจุดส่งน้ำทำให้น้ำดื่มมีความสะอาดบริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลาทำให้ช่วยเพิ่มความสะอาดให้กับน้ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในขณะที่ UV Circular Sterilizer ช่วยทำให้น้ำในแท้งค์มีความบริสุทธิ์อยู่เสมอโดยทุก 6 ชั่วโมงน้ำจะมีการหมุนเวียนผ่านระบวนการฆ่าเชื้อโดยแสงยูวีและถึงแม้ว่าไฟฟ้าจะดับระบบนี้ก็ยังทำงานต่ออีก 1ชั่วโมงเพื่อทำให้เรามั่นใจว่าน้ำดื่มมีความสะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ

เครื่องกรองน้ำของค่าย LG ไม่ได้มีดีที่กรองน้ำสะอาดเท่านั้นแต่ยังมีฟังก์ชั่นอัจฉริยะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่น "วัดปริมาณน้ำที่เติม"จะช่วยให้เราทำอาหารได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องวัดปริมาณน้ำด้วยอุปกรณ์อื่นๆหรือฟังก์ชั่นระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะทั้ง Smart Indicator จะช่วยจดจำช่วงเวลาที่ต้องการเปลี่ยนตัวกรองได้ทำให้เราสามารถรู้เวลาการเปลี่ยนแผ่นกรองได้โดยง่าย และ Smart FilterChange ที่ให้เราสามารถเปลี่ยนตัวกรองของเครื่องกรองน้ำได้ง่ายๆด้วยตัวเราเองโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

เครื่องกรองน้ำค่าย LG ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานเพื่อให้เราใช้เครื่องกรองน้ำ  กรองน้ำเพื่อใช้เป็นน้ำดื่มแล้วยังสามารถต่อวาล์วเพิ่มเติมสำหรับใช้ปรุงอาหารได้อีกด้วยเครื่องกรองน้ำ ถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งได้สะดวกทุกพื้นที่ทั้งแบบติดผนัง หรือวางบนเคาน์เตอร์ตามความสะดวกของการใช้งานและด้วยแท้งค์จุน้ำขนาดความจุ 8 ลิตรของ เครื่องกรองน้ำ ทำให้เราสามารถมีน้ำดื่มพอสำหรับทั้งวันแม้ไฟฟ้าดับ เครื่องกรองน้ำค่าย LG น่าจะตอบโจทย์ชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างลงตัวทั้งนวัตกรรมการออกแบบที่คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย ความสะดวกง่ายดายในการใช้งานและนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ผ่านการคิดและวิเคราะห์เพื่อให้ได้น้ำดื่มสะอาดและบริสุทธิ์

Cr.ข่าวเนชั่น

แคร์รี ฟิชเชอร์ ผู้รับบท “เจ้าหญิงเลอา” แห่ง Star Wars เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 60 ปี หลังจากเกิด ภาวะหัวใจหยุดเต้น ขณะโดยสารเครื่องบิน จากอังกฤษ มายังลอสแองเจลิส

เจ้าหญิงเลอา


แคร์รี ฟิชเชอร์  ผู้รับบท “เจ้าหญิงเลอา” แห่ง Star Wars เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 60 ปี หลังจากเกิด ภาวะหัวใจหยุดเต้น ขณะโดยสารเครื่องบิน จากอังกฤษ มายังลอสแองเจลิส


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แคร์รี ฟิชเชอร์ นักแสดงหญิงชื่อดัง ชาวอเมริกัน ผู้รับบท “เจ้าหญิงเลอา” ในภาพยนตร์มหากาพย์ไซไฟยอดนิยมอย่าง “สตาร์ วอร์ส” เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 60 ปี หลังจากประสบภาวะหัวใจหยุดเต้น โดยก่อนหน้านี้ทำเอาบรรดาสาวกแฟนคลับภาพยนตร์ Star Wars ต่างพากันวิตกถ้วนหน้า เมื่อมีรายงานว่า แคร์รี ฟิชเชอร์ เจ้าของบท "เจ้าหญิงเลอา" ได้หยุดหายใจไปนานกว่า 10 นาที หลังเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวกะทันหันก่อนที่เครื่องจะลงจอด 15 นาที

โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อาการโรคหัวใจของ แคร์รี ฟิชเชอร์ กำเริบขณะที่เธอกำลังเดินทางจากกรุงลอนดอนของอังกฤษไปยังนครลอสแองเจลิส ของสหรัฐฯ โดยเครื่องบิน ซึ่งเป็นกำลังเดินสายโปรโมตหนังสือเล่มล่าสุดของเธอ  ซึ่งเป็นเที่ยวบินของสายการบิน United Airlines ที่บินจากอังกฤษ มายังลอสแองเจลิส ก่อนจะกู้ชีพขึ้นมาได้พร้อมพาตัว แคร์รี ฟิชเชอร์  "เจ้าหญิงเลอา" แห่ง Star Wars  ทำให้เธอถูกนำตัวส่งส่งห้องฉุกเฉินและเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิดต่อในห้องไอ.ซี.ยู อย่างเร่งด่วนเมื่อเครื่องลงจอด อาการของเธอทรงตัวแล้ว แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตแ ด้วยวัย 60 ปี
     
เป็นเรื่องเศร้าจริงๆ ที่  เธอ "เจ้าหญิงเลอา" แห่ง Star Wars เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 08.55 น. ของเช้าวันนี้ ตรงกับวันอังคารที่ 27 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา  เธอเป็นที่รักของโลกใบนี้ และจะระลึกถึงเธออย่างสุดซึ้ง โดย ไซมอน ฮอลส์ ทำหน้าที่โฆษกของครอบครัว กล่าวในนามของลูกสาวฟิชเชอร์ ได้ออกมายืนยันข่าวแทน บิลลี ลอร์ด ลูกสาวของแคร์รี ฟิชเชอร์ โดยระบุว่า แคร์รี ฟิชเชอร์ เสียชีวิตลงอย่างสงบแล้วในวันอังคารตามเวลาสหรัฐฯ ครอบครัวของเราทั้งหมดขอขอบคุณทุกๆ คน ที่ส่งความรักและกำลังใจมาให้พวกเราด้วย
     
ทางด้าน แอนนา เอคานา นักแสดงที่โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวด้วย ก็ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ลูกเรือของสายการบินรวมถึงผู้โดยสารคนอื่นๆ ต่างก็พยายามให้การช่วยเหลือ แคร์รี ฟิชเชอร์  "เจ้าหญิงเลอา" แห่ง Star Wars หลังจากเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลันขณะโดยสารเครื่องบิน โดยในเที่ยวบินดังกล่าวมีแพทย์และพยาบาลเดินทางอยู่ในเที่ยวบินนี้ด้วย ซึ่งต่างก็ช่วยกันกูชีพทำ CPR จนทำให้เธอกลับมาหายใจอีกครั้งได้สำเร็จ พร้อมได้พาตัวส่งห้องฉุกเฉินและเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิดต่อในห้องไอ.ซี.ยู. แต่สุดท้ายก็ได้สิ้นลมลงแล้ว
     
ทางด้านสายการบิน United Airlines ก็ได้ออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุเช่นกัน โดยกล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ของเราได้เข้าช่วยเหลือผู้โดยสารบนเที่ยวบิน United Flight 935 ที่บินจากกรุงลอนดอน มายังลอสแองเจลิสในวันนี้ทันทีที่มาถึง หลังจากที่ลูกเรือรายงานว่า มีผู้โดยสารหมดสติ เราขอส่งใจไปยังลูกค้าของสายการบินในเวลาเช่นนี้ด้วย ภายหลังมีการยืนยันข่าวการเสียชีวิตขอ งแคร์รี ฟิชเชอร์  "เจ้าหญิงเลอา" แห่ง Star Wars  ปรากฏออกมา ทางด้านคู่ขวัญอย่าง แฮริสัน ฟอร์ด นักแสดงดังวัย 74 ปี ก็ได้ขึ้นข้อความไว้อาลัย โดยระบุว่า  “แคร์รี เป็นคนที่พิเศษไม่เหมือนใคร ...เธองดงาม, ของแท้, ตลก และกล้าหาญ เธอใช้ชีวิตของเธอมาได้อย่างหาญกล้าทีเดีว โดยเขายังขอส่งใจไปยังลูกสาวของเธอ รวมถึงพ่อแม่ของเธอด้วย      

แคร์รี ฟิชเชอร์ หรือ เจ้าของบท "เจ้าหญิงเลอา" เกิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 1956 เป็นบุตรสาวของ เด็บบี เรย์โนลด์ และ เอนเตอร์เทนเนอร์ชื่อดัง เอ็ดดี ฟิชเชอร์ เธอเคยทิ้งฮอลลีวูดเพื่อไปศึกษาต่อที่ Central School of Speech and Drama ในกรุงลอนดอน อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นไม่นาน เธอก็กลับมาโลดแล่นในวงการอีกครั้ง โดยเปิดตัวด้านภาพยนตร์ด้วยผลงานเรื่อง Shampoo เมื่อปี 1975 ก่อนที่ 2 ปีต่อมาจะมารับบทเจ้าของบท "เจ้าหญิงเลอา" ใน Star Wars ภาคแรกขณะที่เธอมีอายุเพียง 19 ปี โดยเธอยังคงแสดงในบทเดิมต่อเนื่องมาอีก 2 ภาครวมถึงในภาคล่าสุดอย่าง The Force Awaken เมื่อปี 2015 ด้วย

นอกจากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars แล้ว แคร์รี ฟิชเชอร์ หรือ เจ้าของบท "เจ้าหญิงเลอา" ยังมีผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นอีกทั้ง The Blues Brothers, The Man with One Red Shoe, Hannah and Her Sisters และ When Harry Met Sally  ทั้งนี้ จากข่าวดังกล่าวได้สร้างความโศกเศร้าให้แก่บรรดานักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส รวมถึงแฟน ๆ อย่างมาก ซึ่ง มาร์ค ฮามิลล์ หนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ผู้รับบท ลุค สกายวอล์คเกอร์ ได้ทวีตข้อความสั้น ๆ ว่า “ไม่มีคำใดจะเอ่ยออกมาได้”    
     
 “แคร์รี กับ ผมเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยวัยรุ่น เธอฉลาดสุดๆ เป็นนักแสดงหญิงที่มีความสามารถ เป็นนักเขียน และศิลปินตลกที่มีหลายด้านในคนคนเดียวจนเป็นที่รักของทุกๆ คน ใน Star Wars เธอเป็นเจ้าหญิงทรงอำนาจ, ฉลาด และยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา และบทขอเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่ยากเกินกว่าที่หลายคนคิด ผมของส่งใจและคำภาวนาไปยัง บิลลี, เด็บบี และเพื่อนๆ ครอบครัว และแฟนๆ ของเธอด้วย จะรำลึกถึงเธอตลอดไป”  จอร์จ ลูคัส ผู้คัดเลือกให้เธอมารับบทเจ้าหญิงเลอา ได้เผยความรู้สึกแสดงการจากไปของ แคร์รี ฟิชเชอร์  "เจ้าหญิงเลอา" แห่ง Star Wars

Cr.ข่าวสนุก นิวส์

Tuesday, December 27, 2016

แขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน รักษาหายได้ ด้วยวิธีการขันชะเนาะ หายปวดได้ภายใน 2 วินาที โดยไม่ต้องผ่าตัด

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


แขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน รักษาหายได้ ด้วยวิธีการขันชะเนาะ หายปวดได้ภายใน 2 วินาที โดยไม่ต้องผ่าตัด


กรณี แขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน หรือ ภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema) นั้น สามารถรักษาได้ด้วย การผ่าตัดต่อหลอดน้ำเหลืองเข้าหลอดเลือดดำด้วยการผ่าตัดผ่าน กล้องไมโครสโคป (Microscope) หรือ เทคนิค supermicrosurgery นี้ ประกอบด้วย  กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง 40 เท่า อุปกรณ์เครื่องมือพิเศษขนาดเล็กกว่า 0.8 มิลลิเมตร และ เข็มเย็บขนาดเล็ก 50-80 ไมครอน สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า และไหมเย็บขนาดเล็กกว่าเส้นผม เบอร์ 11-0 หรือ 12-0  โดยมีศัลยแพทย์ประจำกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง

ทั้งนี้ การผ่าตัดแขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน หรือ ภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema) นั้น จะใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง โดยแพทย์จะทำการดมยาสลบก่อนเปิดแผลกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร จากนั้นจึงทำการต่อทางเดินน้ำเหลืองเข้ากับหลอดเลือดดำ 3 - 4 ตำแหน่ง ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษ เข็มเย็บขนาดเล็ก 50-80 ไมครอน (เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)) และไหมเย็บขนาดเล็กกว่าเส้นผม เบอร์ ร่วมกับกล้องจุลทรรศน์ (Microscope) กำลังขยายสูง สามารถรักษาแขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน ได้
     
อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema) นั้น ทุกคนสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้ เริ่มจากรักษาความสะอาดอวัยวะที่บวมเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการติดเชื้ออักเสบ ยกอวัยวะที่บวมให้สูงไว้ เพื่อช่วยน้ำเหลืองที่คั่งคืนสู่ร่างกาย งดอาหารเค็มและอาหารประเภทไขมันสูง เพราะเกลือที่มากเกินไปจะเหนี่ยวนำให้ร่างกายบวมน้ำ ส่วนไขมันจะไปพอกสะสมบริเวณแขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตันที่น้ำเหลืองคั่ง ทำให้อาการบวมรุนแรงยิ่งขึ้น รวมถึงการพันผ้ายืด (elastic bandage) ให้ตึงพอดี หรือสวมถุงน่อง (stocking) ที่กระชับพอดี ไม่แน่น หรือหลวมไปตลอดเวลา จะถอดเฉพาะเวลาอาบน้ำเท่านั้น

ในส่วนอาการ แขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน จะมีการบวมที่จุดดังกล่าว มากน้อยต่างกันไป แต่เท่าที่เคยพบ บางคนบวมถึงขนาดที่ขาที่บวมหนักถึง 90 กิโลกรัม และมีขนาดเท่ากับโอ่งมังกรใบย่อมๆ เลยทีเดียว แต่โรคนี้ก็มีหลายระดับ หากเป็นระดับผิวๆ ที่น้ำเหลืองมาคั่งที่ผิวด้านนอกจะบวมมากแต่ไม่รู้สึกเจ็บ หากแต่อาการ แขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน ถ้าเป็นบวมน้ำเหลืองระนาบลึกจะบวมน้อยแต่มีอาการปวดมาก โรคนี้มีวิธีการตรวจที่แน่นอนด้วยการทำเอ็มอาร์ไอเพื่อดูเนื้อเยื่อภายในร่างกาย

ส่วนสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของโรคอาการ แขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน นี้ก็คือ มีคนจำนวนมากเชื่อว่าโรคนี้รักษาไม่หาย รักษาไม่ได้ และเป็นโรคเวรโรคกรรม ทำให้คนไข้หมดกำลังใจและท้อจนไม่ขวนขวายรักษา ส่วนการรักษาก็มีตั้งแต่การนวดด้วยเครื่องอัดลม ซึ่งมีบริการในโรงพยาบาลขนาดใหญ่บางแห่งเท่านั้น การขันชะเนาะลดบวม และการผ่าตัด โดยล่าสุดเป็นการต่อหลอดน้ำเหลืองเข้าหลอดเลือดดำด้วยการผ่าตัดผ่าน กล้องไมโครสโคป (Microscope) หรือ เทคนิค supermicrosurgery แต่มีวิธีใหม่ที่รักษาโดยไม่ต้องมีการผ่าตัดแล้ว ที่ค้นคิดจากสถาบันบุพโพวิทยาแห่งประเทศไทย

ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ ผู้อำนวยการสถาบันบุพโพวิทยาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบุคคลากรทางการแพทย์รายแรกของโลกที่รักษาโรคบวมน้ำเหลืองได้โดยไม่ต้องใช้ยาหรือการผ่าตัดถ้าแขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน ยังบวมไม่มาก ให้ความว่า โรคดังกล่าวนี้เกิดจากการถ่ายเทและดูดซับน้ำเหลืองที่ผิดปกติ ทำให้น้ำเหลืองไปค้างอยู่ในน้ำเยื่อจนเกิดการเจิ่งนอง โดยจะปรากฏร่วมกันการขยายตัวและการแพร่พันธุ์ของหลอดน้ำเหลืองอย่างดาษดื่น พบบ่อยที่แขน ขา ใบหน้า หน้าท้อง เต้านม สะโพก ถุงอัณฑะ แคมอวัยวะเพศ

วิธีรักษา เมื่อแขนขาบวม จากทางเดิน น้ําเหลืองอุดตัน มันบวมขึ้นมาเราก็ทำให้มันแฟบลง เมื่อน้ำเหลืองคั่งเราก็บีบมันออก แทบไม่มีคนเชื่อว่าเราจะรักษาโรคยากๆ ด้วยวิธีพื้นฐานและถูกมากอย่างการขันชะเนาะ บางคนที่ปวดมากมาเป็นสิบๆ ปี เราสามารถใช้วิธีนี้ทำให้หายปวดได้ภายใน 2 วินาที ปัญหาก็คือตอนนี้เรามีผู้ป่วยมาก แต่มีหมอคนเดียวที่รักษา นอกนั้นเราได้ผู้ช่วยที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ศึกษาในโครงการบ้าง หรือผู้ป่วยที่หายแล้วบ้าง ที่ได้รับการอบรมการขันชะเนาะเป็นอย่างดีมาช่วย เรามีคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 19 ประเทศ บินมารักษาภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)กับเรา  นอกจากนี้ก็มีหลายประเทศที่เจอวิกฤตผู้ป่วยด้วยอาการภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema)เช่นนี้ติดต่อมาให้ไปรักษาและอบรมการขันชะเนาะ เราก็จัดไปให้ จึงอยากให้มีแพทย์หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้อง สนใจวิธีการรักษาแนวนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้พ้นทุกข์ทรมานให้ได้มากที่สุด

Cr.ข่าวผู้จัดการ

Monday, December 26, 2016

"นุช" แฟนสาวหล่อของ “เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)” ออกมาชี้แจงถึงกระแสดราม่าสังคมบนโซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปาก เป็นการร่วมมือกันทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งให้ไร้ที่ยืน


เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)


"นุช" แฟนสาวหล่อของ “เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)” ออกมาชี้แจงถึงกระแสดราม่าสังคมบนโซเชียลมีเดีย วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปาก เป็นการร่วมมือกันทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งให้ไร้ที่ยืน


จากกรณีที่โลกออนไลน์เปิดโอกาสให้สังคมบนโซเชียลมีเดียได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปากมีการวิพากษ์วิจารณ์ การถ่ายแบบเซ็กซี่ของ นางแบบสาวนัยน์ตาน้ำข้าว "เจสซี่ วาร์ด" (Jessie Vard) ว่าแฟชั่นเซ็ตหลังๆ ที่สาวคนนี้ถ่ายเผยแพร่ภาพอนาจารอาจจะดูแรงไปบ้าง จนมีบางคนเข้าไปคอมเม้นต์จนเกินความพอดี ขณะที่เจ้าตัวก็บอกว่าเธอดูแลตัวเองดีและเซฟทุกอย่างแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ "นุช" แฟนสาวหล่อของเจสซี่ ออกอาการโมโห และโพสต์ด่าคนที่เข้ามาต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง จนมีคนขุดภาพเก่า ๆ โดยลักษณะของภาพเคลื่อนไหวที่มีผู้ชายพยายามลวนลามนั้น เป็นภาพในที่เฉพาะไม่เหมาะสม ที่จะนำมาเผยแพร่ และข้อความต่างๆ ของนุช วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปากเป็นการร่วมมือกันทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งให้ไร้ที่ยืน กระหน่ำซ้ำเติมด้วยถ้อยความประเภทเปิดโปง ประจาน

ล่าสุดสังคมบนโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปาก จนเกิดแฮชแท็ก #ผัวเจสซี่ หรือ “เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)” มาแรงจนขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ไทยเทรนด์เลยทีเดียว ล่าสุด"นุช" แฟนสาวหล่อของเจสซี่ ได้ออกมาชี้แจงถึงกระแสดราม่าสังคมบนโซเชียลมีเดียดังกล่าวว่า “โพสนี้นุชขอมาชี้แจงนะ

1.เรื่องที่นุชใช้คำพูดไม่ถูกต้องในการโพสให้กำลังใจแฟนนุช มันมีคำพูดที่แรงเกินไป โอเคอันนี้นุชขอโทษ อารมณ์ตอนนั้นคือโมโหมากกกกกกกก เพราะนุชไปอ่านคอมเม้นที่ด่าเจส “เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)” กระหรี่บ้าง นู่นนี่นั่น คือตอนนั้นไม่ไหวจริงๆ อันนี้นุชขอโทษด้วยนะคะ

2.เรื่องตอบโต้เม้นที่นุชถ้อยคำไม่ไห้เกียรติคนมาเม้น เหมือนกับว่านุชต้องยอมรับความคิดเห็นสาธารณะให้ได้ คือว่า นุชก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่อยากปกป้องเจสซี่คนที่นุชรัก อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเราถ้ามีคนมาด่าคนที่ตัวเองรัก พวกคุณก็คงไม่ยอม แต่ก็อาจจะไม่ใช้ หรือ ใช้ คำพูดเหมือนนุช แล้วแต่คน ซึ่งนุชก็เป็นคนธรรมดาที่อารมณ์ขึ้นลง ด่าคำหยาบได้ เหมือนคนทั่วไปเลยไม่คิดว่าคำที่เขาด่ากันปกติจะเป็นกระแส ขนาดนี้ คนอื่นด่าไม่ผิด แต่ทำไมนุชด่าถึงผิดได้ขนาดนี้ แต่ถ้ามันไม่สมควรก็ขอโทษนะคะ

3.เรื่องที่ผู้ชายหลายๆคนบอกว่า นุชจะเอามีด เอาปืนไปไล่ยิงนั่น อยากชี้แจ้งว่า มันไม่ใช่ยังงั้น นุชไม่ได้บอกว่าจะไปไล่ยิงพวกมาคอมเม้น จะบ้าเหรอ ใครจะไปไล่หมด คนด่าเป็นพันคน ที่พูดว่ามีมีดในรถคือ นุชเซฟตัวเองกับเจสซี่ตลอด ไปถ่ายแบบต่างจังหวัดแค่2คน เราก็ผู้หญิงทั้งคู่ นอนโรงแรมเปลี่ยวๆ มันต้องมีอาวุธป้องกันตัวบ้าง เผื่อมีเหตุอะไร มันก็อาจจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง ที่บอกไปไม่ได้จะหมายถึงว่านุชเก่ง นุชอยากไล่ฟันคนที่มาเม้น เห้อ คิดกันได้ยังไง แค่อยากบอกว่าเราเซฟตัวเองกันตลอด แค่นั้นเอง ไม่ได้จะโชว์แอคหรือกร่างอะไร เพราะเราก็เป็น ผู้หญิงจะไปสู้อะไรกับผู้ชายได้ แค่ผู้หญิงอยากปกป้องหญิงที่รักแค่นั้นเองค่ะ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วยนะคะ

4.เรื่องที่บอกนุชเกาะเจสซี่กิน ถ้านุชบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง จะเชื่อกันมั้ยละ เพราะเราไปห้ามความคิดคนร้อยพันไม่ไหวหรอก นุชไม่เคยเกาะเจสกิน นุชมีบ้าน มีรถ มีแบรนครีม ขายครีมหาเงินมาตั้งแต่อายุ17-18 นุชมีเงินเก็บ ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แล้วตอนนุชคบกับเจสแรกๆ นุชมีผู้ติดตาม แสนกว่าคน ตอนนั้นเจสไม่มีเลย คนไลค์ประมาน100 กว่า ตอนนั้นเจสซี่ “เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)” ก็ไม่มีเงินเพราะอย่างที่เห็นข่าว ครอบครัวเจสโดนโกง 65 กว่าล้าน ไม่เหลืออะไรเลย

5.นุชเองที่เป็นคนให้เงินเจสใช้ เป็นคนเปลี่ยนแปลงเจส ให้เจสดูดีขึ้น โตขึ้น ดึงเจสจากจุดที่ไม่มีอะไรเลย แล้วคนก็เริ่มติดตามเจสเยอะมาก ด้วยความที่มันสวยแล้วคนก็เลยสนใจมากกว่านุชคนติดตามมันเลยเริ่มเยอะกว่า เป็นประมาน 2-3แสน นุชก็เป็นคนหางานไห้เจสเอง จนได้ถ่ายแบบ แล้วคนที่ชอบ ติดตาม จนมันมีคนติดตามเป็นล้าน ตอนนี้นุชกับเจสซี่ “เจสซี่ วาร์ด (Jessie Vard)” ก็กำลังจะมีอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน ทำมาด้วยกัน นุชทำงานเจสก็ทำงาน เรามีอาชีพทั้งคู่ ซึ่งนุชไม่มีเหตุผลต้องเกาะเจสเลย เรื่องนี้ถามเจสได้ว่าจริงไม่จริง

สุดท้ายถ้ามันมาถึงตอนนี้คือแก้อะไรไม่ได้ อะไรที่นุชผิดนุชขอโทษ อะไรที่นุชไม่ผิด นุชมาชี้แจงนะคะ ใครจะเกลียดก็คงต้องปล่อยไป ใครที่ให้กำลังใจเจสซี่ก็ขอบคุณมากๆค่ะ ถ้าคุณรักใครซักคนมากๆ ก็คงอยากจะทำแบบนุชเหมือนกัน นุชขอแคร์แค่คนรอบข้างกับคนที่มองเราในด้านดีแล้วกันค่ะ ต่อไปนี้ขอปล่อยผ่านไม่ใส่ใจ แล้วใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ”

Cr.สนุก นิวส์,กรุงเทพธุรกิจ

Sunday, December 25, 2016

พัดลมฟอกอากาศ ระดับไมครอน (Micron) ลดมลพิษทางอากาศภายในอาคารและบ้านพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซหุงต้มอาหาร ขนสัตว์เลี้ยง, ละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


พัดลมฟอกอากาศ ระดับไมครอน (Micron) ลดมลพิษทางอากาศภายในอาคารและบ้านพักอาศัย ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซหุงต้มอาหาร ขนสัตว์เลี้ยง, ละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ


ในปัจจุบันนี้สภาพมลพิษทางอากาศในเมืองต่างๆทั่วโลกได้ทวีความรุนแรงขึ้น แต่จะมีใครรู้บ้างว่ามลพิษทางอากาศภายในอาคารและบ้านพักอาศัยของเรามีความรุนแรงได้มากกว่ามลพิษทางอากาศภายนอกอาคารถึง 5 เท่า  ซึ่งพวกเราใช้เวลาในแต่ละวันอยู่ภายในอาคารถึงประมาณ 90%  มลพิษทางอากาศภายในอาคารที่เราพบได้บ่อย จะมาจากก๊าซที่เราใช้หุงต้มอาหารและความร้อนในการประกอบอาหาร, ขนสัตว์เลี้ยง, ละอองเกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ มลพิษเหล่านี้ล้วนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก ระดับไมครอน

มลพิษทางอากาศภายในอาคารและบ้านพักอาศัย เป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก ระดับไมครอน  ซึ่ง 1,000 ไมครอน (Micron)  สามารถเทียบได้กับ  1 มิลลิเมตร หากจะต้องวัดอนุภาคขนาดเล็กมาก ได้ละเอียดถึงระดับไมครอน ต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) และอนุภาคขนาดเล็กมาก ระดับไมครอนดังกล่าว มีแนวโน้มที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย อนุภาคเหล่านี้ล่องลอยและหมุนเวียนอยู่ในอากาศภายในบริเวณบ้านที่เราพักอาศัย ใส่ใจสุขภาพของคุณและครอบครัว เริ่มตั้งแต่อากาศที่คุณหายใจเข้าไป

ไดสัน (Dyson) ผู้นำเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษ จึงได้ระดมทีมวิศวรกรคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหามลพิษอากาศภายในอาคาร โดยนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านพลศาสตร์ของไหล (fluid dynamics) และระบบการกรองอนุภาคขนาดเล็กระดับไมครอน  มาประกอบกัน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นคือพัดลมฟอกอากาศ Dyson Pure Cool Link ซึ่งพัดลมฟอกอากาศเครื่องนี้มีระบบตรวจจับอัจฉริยะ คำนวณและแสดงผลคุณภาพอากาศภายในบ้านพักอาศัยของคุณได้โดยอัตโนมัติ

พัดลมฟอกอากาศ เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นนี้ยังรายงานผลเปรียบเทียบคุณภาพอากาศภายในบ้านและนอกบริเวณบ้านส่งตรงถึงคุณผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือและแท็บเล็ต เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Dyson Link นั่นทำให้มลพิษที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอนุภาคขนาดเล็กมาก ระดับไมครอน เล็กขนาดไหน ขนาดที่ เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน (Micron) ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) วัดชิ้นงานได้ละเอียดถึงระดับไมคร่อนได้สามารถสังเกตเห็นและรับรู้ถึงอันตรายได้ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

เจมส์ ไดสัน ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าทีมวิศวกรของไดสัน กล่าวว่า พวกเรามักจะกังวลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศภายนอกอาคาร ซึ่งแท้จริงแล้วมลพิษทางอากาศภายในอาคารอนุภาคขนาดเล็กมาก ระดับไมครอนกลับมีความรุนแรงที่น่ากลัวกว่ามาก ทีมวิศวกรของไดสันตระหนักถึงความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี จึงพัฒนาเครื่องฟอกอากาศที่มีระบบการทำงานอัตโนมัติ สามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็กระดับไมครอน สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศได้โดยเราไม่ต้องสั่งการ และยังรายงานผลแบบ real time ส่งตรงถึงคุณบนมือถือและแท็บเล็ต

พัดลมฟอกอากาศ Dyson Pure Cool Link ใช้เทคโนโลยีการกรอง ระบบ 360? Glass HEPA filter ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะไดสัน ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะสามารถดักจับมลพิษในอากาศอนุภาคขนาดเล็กระดับไมครอน ได้ถึง 99.95% ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ อนุภาคขนาดเล็ก ที่แม้จะเล็กเพียง 0.1 ไมครอน ซึ่ง 1,000 ไมครอน (Micron)  สามารถเทียบได้กับ  1 มิลลิเมตร หากจะต้องวัดความละเอียดได้ละเอียดถึงระดับไมคร่อน ต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาทำการวัดขนาดที่มีค่าเป็นไมครอน ซึ่งที่ลอยอยู่ในอากาศน้้นไม่สามารถผ่านพัดลมฟอกอากาศได้แต่จะถูกเก็บอยู่ในแผ่นกรองระดับไมครอน

ความพิเศษพัดลมฟอกอากาศไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เพราะระบบเซ็นเซอร์ในตัวเครื่องจะทำหน้าที่ตรวจจับและวัดระดับคุณภาพอากาศภายในอาคารโดยอัตโนมัติ แม้คุณจะไม่อยู่บ้าน ถ้าพบว่ามีคุณภาพอากาศที่ต่ำกว่ามาตราฐาน พัดลมฟอกอากาศนี้ก็จะทำการฟอกอากาศเพื่อให้อากาศที่ไหลผ่านออกมามีคุณภาพอย่างแท้จริง ทันทีที่คุณก้าวเข้าบ้าน คุณก็พร้อมจะสูดอากาศที่ปลอดภัยเข้าไป และนี่ไม่ใช่เพียงเครื่องฟอกอากาศ แต่เป็นพัดลมฟอกอากาศ ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับพัดลมรุ่นอื่นๆของไดสัน นั่นคือ ทำงานเงียบและทรงพลัง Dyson Pure Cool Link จะทำให้อากาศภายในบ้านของคุณปลอดภัย ไร้มลพิษ รวมถึงคงความเย็นให้บ้านของคุณได้ตลอดทั้งปี

นอกจากนี้แอพพลิเคชั่น Dyson Link ยังเก็บบันทึกผลคุณภาพอากาศภายในบ้านของคุณ ให้คุณได้ทราบถึงระดับมลพิษทางอากาศว่าช่วงใดมีระดับสูงหรือต่ำอย่างไร เพื่อทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่มาของมลพิษนั้นๆต่อไป เช่น ช่วงฤดูมรสุม ที่มีลมพัดอย่างต่อเนื่อง เราจะพบมลพิษที่มาจากฝุ่นละอองภายนอกอนุภาคขนาดเล็กระดับไมครอนมากกว่าปกติ หรือ ในขณะที่คุณกำลังทำกับข้าว มลพิษภายในบ้านของคุณก็จะสูงขึ้นเช่นกัน แต่คุณสามารถหมดกังวลกับปัจจัยต่างๆที่จะทำให้บ้านของคุณมีมลพิษทางอากาศสูงขึ้นได้ เพียงเลือกตั้งค่าไปที่ระบบอัตโนมัติ พัดลมฟอกอากาศนี้ก็จะสามารถรักษาสมดุล ให้บ้านของคุณมีคุณภาพอากาศที่ได้มาตรฐานตลอดเวลา

Dyson Pure Cool Link พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ที่ ห้างสรรพสินค้าและร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ อาทิเช่น เซ็นทรัล ชิดลม/ เพาเวอร์บาย เซ็นทรัลเวิล์ด / เซ็นทรัล ลาดพร้าว / สยามพารากอน / เอ็มโพเรียม / เดอะมอลล์ บางกะปิ / เดอะมอลล์ บางแค ฯลฯ โดยวางจำหน่าย 2 ขนาด คือขนาดทาวเวอร์ ราคา 31,900 บาท และขนาดตั้งโต๊ะ ราคา 25,900 บาท สำหรับสีที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยได้แก่สี Silver-White ทั้งยังรับประกันคุณภาพ 2 ปี (ฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน)

Cr.ข่าว ARIP

ต้นคริสต์มาส สูงที่สุดในโลก ! ทำลายสถิติของกินเนส เวิล์ด ในปีที่ผ่านมา ตกแต่งด้วยหลอดไฟ LED ถึง 600,000 ดวง ใช้งบประมาณการสร้างกว่า 3 ล้านบาท

คริสต์มาส


ต้นคริสต์มาส สูงที่สุดในโลก ! ทำลายสถิติของกินเนส เวิล์ด ในปีที่ผ่านมา ตกแต่งด้วยหลอดไฟ LED ถึง 600,000 ดวง ใช้งบประมาณการสร้างกว่า 3 ล้านบาท


วันคริสต์มาสปีนี้ ช่วงเวลาแห่งความสุข! ที่ศรีลังกาแม้จะเป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก แต่ก็เล่นใหญ่ไฟกระพริบไม่น้อยด้วยการเปิดตัวต้นคริสต์มาสสูงที่สุดในโลก! ถึงแม้ว่าการก่อสร้างจะเสร็จช้า และความสูงที่ได้ก็น้อยกว่าแผนเดิมที่ตั้งใจไว้ก็ตาม แต่คนศรีลังกายืนยันว่านี่เป็นต้นคริสต์มาสที่สูงที่สุดในโลก ความสูง 73 เมตรนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา สูงกว่าต้นคริสต์มาสที่สูงที่สุดในจีน ที่มีความสูง 55 เมตรเมื่อปีที่ผ่านมา ทำลายสถิติเดิมด้วยความสูงที่มากกว่าถึง 18 เมตร

ต้นคริสต์มาสความสูง 73 เมตรนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา ด้วยความสูงที่สูงมากกว่าสถิติที่เคยบันทึกไว้ถึง 18 เมตรเลยทีเดียว ถูกสร้างขึ้นจากโครงเหล็ก และลวด คลุมทับด้วยตาข่ายพลาสติกอีกที ด้านการตกแต่งนั้น ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่าต้องใช้ลูกสนถึง 1 ล้านลูก มาทาสีแดง, ทอง, เขียว และเงิน เพื่อนำไปประดับ นอกจากนั้นยังมีการตกแต่งด้วยไฟ LED ถึง 600,000 ดวง ไฟอัตโนมัติ (MOTION SENSOR LIGHT) และปิดท้ายด้วยดาวขนาดใหญ่ 6 เมตรบนยอดต้นคริสต์มาส จากสถิติของกินเนส เวิล์ด ต้นคริสต์มาสที่สูงที่สุดนั้นอยู่ในจีน โดยมีความสูง 55 เมตร ตั้งอยู่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในเมืองกว่างโจว เมื่อปีที่ผ่านมา

ต้นคริสต์มาสต้นนี้ใช้งบประมาณในการสร้างไปทั้งหมดราว 80,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 ล้าน 8 แสนบาท และใช้เวลาในการสร้างนานถึง 4 เดือน ซึ่งก็ถูกโบสถ์คาทอลิกในศรีลังกาวิจารณ์ไปตามระเบียบว่าควรนำเงินไปช่วยเหลือคนยากคนจนจะดีกว่า ด้านนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงหะ ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์ว่า ต้นคริสต์มาสยักษ์นั้นไม่ได้ถูกสร้างจากภาษีประชาชนแต่อย่างใด แต่มาจากเงินบริจาค

องค์กรผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างต้นคริสต์มาสต้นนี้ระบุว่า ต้นไม้เทียมดังกล่าวจะเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีในศรีลังกา หลังประเทศนี้เผชิญกับความแตกแยกและสงครามกลางเมืองระหว่างชาวทมิฬ และชาวสิงหลในปี 2552 แม้ว่าสงครามจะยุติไปนานหลายปี แต่ในปัจจุบันสังคมของศรีลังกายังคงเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งในชั้นวรรณะ รวมไปถึงบรรดาชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาคริสต์ และมุสลิมอ้างว่าพวกเขามักถูกเลือกปฏิบัติราวกับเป็นพลเมืองชั้นสอง

Cr.โพสต์ทูเดย์

Saturday, December 24, 2016

สิ่งทอจากเส้นใยโลหะระดับ ไมครอน มาถักทอสร้างชิ้นงานสิ่งทอ จนได้รับรางวัลดีไซเนอร์ประจำปี ด้านสิ่งทอจาก Design Excellence Award (DEmark)

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


สิ่งทอจากเส้นใยโลหะระดับ ไมครอน มาถักทอสร้างชิ้นงานสิ่งทอ จนได้รับรางวัลดีไซเนอร์ประจำปี ด้านสิ่งทอจาก Design Excellence Award (DEmark)


ดีไซเนอร์สิ่งทอที่หลงใหลความแปลกใหม่ ทำให้ได้รับรางวัลดีไซเนอร์ประจำปี ด้านสิ่งทอจาก Design Excellence Award (DEmark) ผู้ไม่ยึดติดอยู่ใน Comfort Zone กล้าคิดและกล้าทำโดยนำเส้นใยโลหะมาถักทอสร้างความโดดเด่นให้ชิ้นงานในชื่อแบรนด์ Ausara Surface  แรงบันดาลใจของ 'จารุพัชร อาชวะสมิต’ ดีไซเนอร์สิ่งทอ ถูกจุดพลุตั้งแต่วัยประถม 1 ระหว่างเล่นซนรอเวลาเลิกงานของคุณแม่ (ภัทรา อาชวะสมิต) ซึ่งเป็นนักวิชาการอยู่ที่กรมวิชาการเกษตร เธอนำผ้าเช็ดหน้าลวดลาย Hello Kitty ไปส่องกล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างลายทอเล็กระดับไมครอน ที่ปรากฏแก่สายตาคือความมหัศจรรย์ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวสู่เส้นทางสิ่งทอในวันนี้

ตอกย้ำแรงบันดาลใจอีกรอบของ 'จารุพัชร อาชวะสมิต’ ดีไซเนอร์สิ่งทอ รางวัลดีไซเนอร์จาก Design Excellence Award (DEmark) มาจากคุณยาย ที่สมัยเด็กๆ ช่วงปิดเทอมมักใช้เวลาอยู่กับท่านซึ่งมีงานเย็บปักถักร้อยติดมืออยู่เสมอ และได้ส่งต่อฝีไม้ลายมือให้หลานสาวทั้งเย็บมือและเย็บจักร ปักผ้า ถักนิตติ้งและโครเชต์ ช่วงเรียนมัธยม 5 'จารุพัชร อาชวะสมิต’ สอบเทียบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาศิลปะอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำให้ได้เรียนทอผ้าสมใจ เมื่อเรียนจบก็สอบชิงทุนรัฐบาลไปเรียนต่อในศาสตร์ของการทอผ้า แล้วกลับมาเป็นอาจารย์สอนวิชาการออกแบบสิ่งทอและทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

ขณะที่บนเส้นทางสายธุรกิจ 'จารุพัชร อาชวะสมิต’ ร่วมกับเพื่อน (โชษณ ธาตวากร) เปิดบริษัทผลิตผ้าทอจากวัสดุทางเลือกทั้งโลหะและคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นการทำงานที่สนุกและท้าทายมากกับการสร้างวัสดุใหม่ ที่ไม่เคยมีในท้องตลาด เราเป็นเจ้าของนวัตกรรมเอง ออกแบบวัสดุตามคุณสมบัติที่เราอยากให้เป็น เช่น สแตนเลส หากอยากให้มีน้ำหนักเบา โปร่งแสงและเรียบลื่น เราก็ต้องออกแบบเส้นยืนให้เล็กระดับไมครอน เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) จึงสามารถวัดค่าความละเอียดได้

สร้างวัสดุใหม่ ที่ไม่เคยมีในท้องตลาด เราเป็นเจ้าของนวัตกรรมเอง ต้องออกแบบกี่ทอผ้าใหม่เลย ทำการปรับตัว feed เส้นพุ่ง ปรับการเก็บผ้าที่ทอเสร็จแล้วว่าเก็บอย่างไรให้ผ้ายังคงสวยเงางามเป็นงานที่ภูมิใจมากๆ เพราะเราเป็นเจ้าของนวัตกรรมที่ทำให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจที่ทำจากวัสดุโลหะขนาดเล็กระดับไมครอน 1,000 ไมโครเมตรหรือไมครอน สามารถเทียบได้กับ  1 มิลลิเมตร โดยต้องมีความละเอียดและใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า แต่อย่างไรก็ตามก็ได้รับการตอบรับดีมากจากทั้งอุตสาหกรรมตกแต่งภายในและแฟชั่น ที่มีน้ำหนักเบา โปร่งแสงและเรียบลื่น

จารุพัชร ดีไซเนอร์สิ่งทอ บอกว่า งานทุกงานที่ทำ ทำเพราะรัก ทำเพราะอยากทำ เป็นคนที่โชคดีที่ Work is play and play is work. คือเล่นก็กลายเป็นงาน งานก็สนุกจนเหมือนเล่น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มีอิทธิพลมากในเรื่องของนิสัย ความชอบและอาชีพ โดยนิสัยส่วนตัวชอบความเสี่ยง ไม่กลัวที่จะต้องเจอปัญหา และเป็นคนที่ไม่ชอบติดอยู่ใน Comfort Zone เพราะจะทำให้คุ้นเคยกับความสบายและเริ่มกลายเป็นความเฉื่อยชา ขี้เกียจ ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่คิด ไม่ทำอะไรใหม่ หยุดอยู่กับที่

ทุกปีดีไซเนอร์สิ่งทอจะพยายามหาเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ มีทั้งที่ไปกับเพื่อนและไปเพียงลำพัง ล่าสุดเมื่อเมษายนที่ผ่านมาใช้ชีวิตทัวร์ทั่วยุโรปเพียงคนเดียว ไปเดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศสและอังกฤษ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะและนิทรรศการ จนชุ่มฉ่ำใจ  เที่ยวครบเดือนแล้วก็หอบแรงบันดาลใจกลับมาสร้างสรรค์สุดยอดผลงานให้กับวงการสิ่งทอไทย

Cr.กรุงเทพธุรกิจ

ห้ามประชาชน บริษัทห้างร้านต่างๆ ฉลองเทศกาล คริสต์มาส ที่บรูไน ฝ่าฝืนเจอโทษจำคุก 5 ปี หรืออาจถูกปรับเป็นเงินมากถึง 2 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐ

คริสต์มาส


ห้ามประชาชน บริษัทห้างร้านต่างๆ ฉลองเทศกาล คริสต์มาส ที่บรูไน ฝ่าฝืนเจอโทษจำคุก 5 ปี หรืออาจถูกปรับเป็นเงินมากถึง 2 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐ


เทศกาลเฉลิมฉลองที่ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอย อย่างไรก็ดีหากคุณผู้อ่านบังเอิญอยู่ในบรูไน ช่วงวันคริสต์มาส อาจจะต้องแปลกใจกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะสำหรับประเทศนี้การฉลองคริสต์มาสนั้นเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฤหมายด้วยการฉลองวันคริสต์มาส ในบรูไน จะเผชิญกับบทลงโทษจำคุกนานถึง 5 ปี เลยทีเดียว หรืออาจถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 20,000 ดอลล่าร์สหรัฐ จากคำประกาศล่าสุดโดยสุลต่านเอง

บรูไนเริ่มมาตรการแบนเทศกาลคริสต์มาสมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลที่ว่าการฉลองวันคริสต์มาสนั้น ไม่สอดคล้องกับศาสนาอิสลาม ซึ่งมีผู้นับถือคิดเป็นสัดส่วน 65% ของประเทศ ทั้งนี้บรรดาประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ยังสามารถฉลองเทศกาลตามความเชื่อของพวกเขาได้ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องทำในสถานที่ส่วนบุคคล คำประกาศจากทางการได้รับการสนับสนุนโดย ผู้นำศาสนาอิสลามในท้องถิ่น ซึ่งออกคำเตือนว่าการนำสิ่งของที่ใช้ประดับประดาในวันคริสต์มาสมาตกแต่ง ยังเป็นเรื่องผิดในศาสนาอิสลามอีกด้วย

ช่วงก่อนวันคริสต์มาส เจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนาพากันออกตรวจตราตามบริษัทห้างร้านต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการประดับตกแต่ง เช่นการสวมหมวกซานต้า หรือติดป้ายอวยพรเนื่องในเทศกาล ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฤหมายด้วยการฉลองวันคริสต์มาส ในบรูไน จะเผชิญกับบทลงโทษจำคุกนานถึง 5 ปี เลยทีเดียว หรืออาจถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 20,000 ดอลล่าร์สหรัฐ การฉลองวันคริสต์มาสนั้น ไม่สอดคล้องกับศาสนาอิสลาม

การประกาศแบนเทศกาลเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสในปีนี้ต้องเผชิญกับเสียงต่อต้านจากโลกออนไลน์ เมื่อบรรดาผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจากในหลายประเทศมุสลิม ไม่ว่าจะเป็น อิหร่าน หรือซาอุดิอาระเบียพากันโพสต์ภาพพวกเขาเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส พร้อมติดแฮชแทก #MyTreedom เพื่อแสดงออกถึงกฏหมายที่ริดรอนเสรีภาพในบรูไน

Cr.โพสต์ทูเดย

Thursday, December 22, 2016

ถนนอัจฉริยะ อีก 30 ปี กลายเป็น ถนนกรองอากาศ ถนนเรืองแสง และ ถนนแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยียางมะตอย ทำได้จริงแล้วที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกของเชลล์ที่บังกาลอร์

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)

ถนนอัจฉริยะ อีก 30 ปี กลายเป็น ถนนกรองอากาศ ถนนเรืองแสง และ ถนนแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยียางมะตอย ทำได้จริงแล้วที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกของเชลล์ที่บังกาลอร์


ศาสตราจารย์ จอห์น รี้ด ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์เทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยางมะตอยของเชลล์ กล่าวว่า การลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของยางมะตอยของเรานั้น มีความมุ่งมั่นเพื่อพลิกโฉมพื้นผิวถนนปกติให้กลายเป็นพื้นผิวแบบอัจฉริยะ ถนนเรืองแสง ถนนแหล่งกำเนิดไฟฟ้า หรือ ถนนกรองอากาศ พื้นผิวถนนที่สามารถกักเก็บสสารที่เป็นอันตรายได้ มลพิษที่คุกคามทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของเรา อนุภาคเหล่านี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางต่ำกว่า 10 ไมครอนหรือประมาณ 1 ใน 7 ของความหนาของเส้นผมมนุษย์ สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า

เพื่ออนาคต เทคโนโลยียางมะตอยเหล่านี้จะต้องใช้เวลาในการพัฒนากว่าทศวรรษก่อนที่จะถูกนำ ออกมาสู่ตลาด แต่ก็มีที่เราสามารถนำออกมาใช้งานได้แล้ว เช่น เชลล์ บิทูเฟรช Bitufresh ผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาให้เป็นมากกว่าการกลบกลิ่นยางมะตอยด้วยการปนกลิ่นอื่น ๆ เพราะ Bitufresh สามารถขจัดกลิ่นของยางมะตอยออกไปโดยใช้หลักการโครงสร้างทางเคมีโมเลกุล โดยสารประกอบใน Bitufresh จะเข้าไปจับตัวกับอนุภาค "Mercaptans" (ตัวปล่อยกลิ่นยางมะตอย) ทำให้ตัวปล่อยกลิ่นมีน้ำหนักและความหนาแน่นมากขึ้นและจมลงสู่ด้านล่างจนไม่ สามารถปล่อยกลิ่นออกมาได้ มลพิษเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก แค่ 10 ไมครอน เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) เป็นพื้นผิวถนนที่สามารถกักเก็บสสารที่เป็นอันตรายได้

ถนนกรองอากาศ: อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ไม่ไกลเกินความจริง คือ พื้นผิวถนนที่สามารถกักเก็บสสารที่เป็นอันตรายได้ ยกตัวอย่างเช่น ไนโตรเจนออกไซด์ หรือ มลพิษในอากาศ โดยเชลล์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถดูดซึมฝุ่นละอองแบบ PM10 เช่น ควัน เขม่า ละออง และสสารอื่น ๆ ที่เกิดจากการปล่อยก๊าซที่มาจากยานพาหนะ ทั้งนี้ Particulate Matter 10 คือ ส่วนประกอบหลักในมลพิษที่คุกคามทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของเรา มลพิษ PM10 ประกอบด้วยของเหลวและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ล่องลอยในอากาศ

สิ่งที่น่ากังวล คือ อนุภาคที่มีขนาดเล็กนั้นเมื่อถูกสูดเข้าไปจะสามารถเข้าไปยังส่วนลึกที่สุด ของปอดได้ อนุภาคเหล่านี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางต่ำกว่า 10 ไมครอนหรือประมาณ 1 ใน 7 ของความหนาของเส้นผมมนุษย์ สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ PM10 (ข้อมูลจาก California Environmental ProtectionAgency Air Resources Board) โลกของเรากำลังมีประชากรเพิ่มมากขึ้น และจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน กฎหมายที่เกี่ยวกับการควบคุมมลพิษก็เพิ่มความเข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงเห็นการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อลดการปล่อยมลพิษในรถยนต์เข้ามาใช้มากขึ้น

ถนนเรืองแสง : อีกหนึ่งนวัตกรรมจากยางมะตอย บ.เชลล์ ได้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพ (การเรืองแสง หรือ ฟอสฟอเรสเซนซ์) ของพื้นผิวทางเท้า ในการทำให้เกิดแสงไฟโดยรอบและแสงแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่ต้องเจอกับสภาพถนน ที่เปลี่ยนไปหรือมีอันตราย ทั้งยังได้ร่วมมือกับผู้จัดหาวัสดุเรืองแสง (ฟอสฟอเรสเซนซ์)และมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง ในการศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการพัฒนาสัดส่วนของยางมะตอยแบบผสมนี้

ถนนแหล่งกำเนิดไฟฟ้า: เชลล์กำลังทำงานร่วมกับเพฟเจน (Pavegen) บริษัทด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาวัสดุปูพื้นอัจฉริยะที่สามารถสร้างพลังงานได้ จากการเคลื่อนไหวของคน และยังมีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถจ่ายพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กับยานพาหนะได้ นอกจากนี้เชลล์ยังมีแนวคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้เทคโนโลยีนี้สามารถแจ้งเตือน ไปยังหน่วยงานท้องถิ่น และผู้มีหน้าที่กำกับดูแลหากถนนเกิดความเสียหาย เมื่อถนนเกิดการชำรุด แรงดันจากยานพาหนะจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนถึงความเสียหายที่จะตามมาได้

ศาสตราจารย์ จอห์น รี้ด ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์เทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ยางมะตอยของเชลล์ กล่าวว่า การพัฒนาเทคโนโลยีของยางมะตอย เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของผลิตภัณฑ์ ปัจจุบัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกของเชลล์ที่บังกาลอร์ มีนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการค้นคว้าวิจัยลึกถึงระดับโมเลกุล เพื่อให้ยางมะตอยมีคุณสมบัติในการสร้างถนนที่นอกจากจะแข็งแรงทนทานมากขึ้น และใช้งานได้ยาวนานขึ้นแล้ว ยังจะช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย  ศาสตราจารย์ จอห์นและทีมของเขา ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งที่จะเปลี่ยนถนนหนทางในโลกใบนี้ให้กลายเป็นพื้นผิวที่สามารถส่อง สว่างได้ในความมืด สามารถชาร์จพลังงานให้กับรถยนต์ไฟฟ้าในขณะที่เราขับรถอยู่ และสามารถป้องกันการปล่อยมลพิษได้

Cr.ฐานเศรษฐกิจ ,ประชาชาติธุรกิจ

Wednesday, December 21, 2016

เว็ปไซด์ กรมบัญชีกลาง ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ ที่เรียกตัวเองกว่า เพจพลเมืองต่อต้าน Single Gateway โจมตีจนไม่สามารถใช้งานได้ แต่ไม่มีผลกระทบกับระบบการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการ หลังพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์ เข้ามาเจาะระบบฐานข้อมูล ได้ใช้ ไอพี (IP) ที่มีแหล่งที่มาจากต่างประเทศจำนวนมาก

กรมบัญชีกลาง


เว็ปไซด์ กรมบัญชีกลาง ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ ที่เรียกตัวเองกว่า เพจพลเมืองต่อต้าน Single Gateway โจมตีจนไม่สามารถใช้งานได้ แต่ไม่มีผลกระทบกับระบบการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการ หลังพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์ เข้ามาเจาะระบบฐานข้อมูล ได้ใช้ ไอพี (IP) ที่มีแหล่งที่มาจากต่างประเทศจำนวนมาก


หลังจากระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของ กรมบัญชีกลาง และ ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐ หรือ GFMIS ถูกโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway ในช่วงบ่ายของวานนี้ ล่าสุดการใช้งานของเว็บไซต์ยังไม่สามารถใช้งานได้ โดยได้ออกประกาศขยายระยะเวลาการเสนอราคาการประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกโครงการออกไปเป็นการชั่วคราว และจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดี เข้ามาเจาะระบบฐานข้อมูล ได้ใช้ ไอพี (IP) ที่มีแหล่งที่มาจากต่างประเทศจำนวนมาก ทั้งใน ยุโรป และ แอฟริกา รวมทั้ง ไทย โดยขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบย้อนกลับว่ากลุ่มเหล่านี้เป็นใคร ซึ่งในส่วนของไอพีที่ใช้ในประเทศไทยสามารถตรวจสอบผู้ใช้ได้

ทั้งนี้ความพยายามในการเจาะระบบข้อมูล กรมบัญชีกลาง ของกลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองกว่า เพจพลเมืองต่อต้าน ซิงเกิล เกตเวย์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เน็ต ไฟวอลล์ บ่ายวานนี้ ทำให้ระบบล่มเพราะหลังเข้าไปเจาะระบบติดด่านไฟล์วอร์ในชั้นแรกทำให้ระบบชัตดาวน์อัตโนมัติ แต่ยังไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงระบบฐานข้อมูลหลัก เพราะการจะเข้าถึงระบบข้อมูลเชิงลึกนั้นต้องเข้ารหัสหลายชั้นทำให้ระบบฐานข้อมูลไม่ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ได้เตรียมมาตรการป้องกันไว้หลายด้านแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้โดยยืนยันว่า กรมบัญชีกลาง ยังสามารถดำเนินการจ่ายเงินเดือนข้าราชการได้ตามปกติ และ จะสามารถเปิดประมูลจัดซื้อจัดจ้างทางอิเลคทรอนิกส์ให้ได้ตามปกติเร็วที่สุด

กรมได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและได้ประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี แล้ว ซึ่งมีระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพหลายชั้น รวมทั้งแผนรองรับการนัดหมายโจมตีระบบอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้เช่นกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นายพรชัย หาญยืนยงสกุล รองอธิบดี กรมบัญชีกลาง ในฐานะผู้รับผิดชอบระบบคอมพิวเตอร์ กล่าว เบื้องต้นประเมินว่า ระบบจัดซื้อจัดจ้างของกรมฯจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ประมาณเวลา 13.00 น.วันนี้ และไม่กระทบการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ รวมทั้งการจ่ายเงินบำนาญด้วย ซึ่งเกิดขึ้นในส่วนของเวบไซต์ภาครัฐที่เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารจะเป็นระบบเปิดที่ให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ แต่จากบทเรียนครั้งนี้ ทำให้กรมต้องทบทวนมาตรการป้องกันระบบความปลอดภัยและอาจเสนอเพิ่มงบลงทุนป้องกันระบบเพิ่มเติม

จากปัญหาการโจมตีเว็บไซต์ กรมบัญชีกลาง หน่วยงานราชการจากกลุ่มที่เรียกตัวเองกว่า เพจพลเมืองต่อต้าน Single Gateway ไทยแลนด์ อินเตอร์เน็ต ไฟวอลล์นั้น  นายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิคส์ (องค์การมหาชน) กล่าว หน่วยงานภาครัฐจะมีระดับชั้นความลับของข้อมูลที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของเวบไซต์ภาครัฐที่เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารจะเป็นระบบเปิดที่ให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ เช่น ระบบการจัดซื้อจัดจ้างที่จำเป็นต้องให้ข้อมูลกับเอกชนที่ต้องการเข้ามาประมูลงานได้รับทราบ จึงถือเป็นระบบเปิด ซึ่งการโจมตีสามารถทำได้โดยการเข้ามายังเว็บไซต์พร้อม ๆ กัน ทำให้การจราจรติดขัดและล่าช้า แต่ในส่วนของข้อมูลสำคัญจะมีชั้นความลับและอยู่ในระบบปิดและมีระบบป้องกันที่เรียกว่า firewall ป้องกันอยู่

Cr.ไทยพีบีเอส,สนุก นิวส์,ฐานเศรษฐกิจ,สปริง นิวส์

เปลี่ยนขยะเป็นเงิน แกลบข้าวจากโรงสีข้าว เป็น วัสดุรูพรุนระดับไมครอนน้ำหนักเบา นำไปใช้แทนดิน กรองของเสียตู้ปลา ช่วยลดปัญหาขยะหลังโรงสี ด้วยนวัตกรรม จาก ทีมนักวิจัย หน่วยวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)

เปลี่ยนขยะเป็นเงิน แกลบข้าวจากโรงสีข้าว เป็น วัสดุรูพรุนระดับไมครอนน้ำหนักเบา นำไปใช้แทนดิน กรองของเสียตู้ปลา ช่วยลดปัญหาขยะหลังโรงสี ด้วยนวัตกรรม จาก ทีมนักวิจัย หน่วยวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค)


ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โรงสีทั้งขนาดเล็กใหญ่จึงกระจัดกระจัดอยู่ตามเมืองต่างๆ โดยเฉพาะทางแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ไม่ว่าจะเป็นโรงสีขนาดเล็กหรือใหญ่ ผลพลอยได้อย่างแกลบและขี้เถ้าจำนวนมากก็สร้างภาระเหมือนกัน นักวิจัยเอ็มเทค ชุบชีวิตขยะหลังโรงสีเป็นนวัตกรรมวัสดุพอร์แมทมีสมบัติความพรุนตัวสูง โดยมีขนาดรูพรุนระดับไมครอนจนถึงขนาดรูพรุนระดับมิลลิเมตร โดย น.ส.อุมาพร เสนวิรัช นักวิจัยหน่วยวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
     
เวลาสีข้าวออกมา ผลพลอยได้อย่างแกลบและขี้เถ้าจำนวนมากก็สร้างภาระเหมือนกัน เกือบครึ่งหนึ่งคือ แกลบ และอีก 20% ของแกลบก็คือขี้เถ้า ข้าวปริมาณมหาศาลขายได้ไม่มีปัญหา แต่แกลบมหาศาลจะทำอย่างไรกับมัน ด้วยความที่ห้องปฏิบัติการของเราเชี่ยวชาญเทคโนโลยีเกี่ยวกับเซรามิกส์และการผลิตปุ๋ยเม็ด เราจึงนำวัสดุมาเข้าเครื่องปั้นปุ๋ยตามแบบอุตสาหกรรมเซรามิกส์โดยใช้แค่แกลบและน้ำ ก่อนจะเผาในอุณหภูมิสูง จนได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาในรูปแบบเม็ดที่มีรูพรุน ตามสมบัติของแกลบและขี้เถ้า ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายทาง โดยได้ตั้งชื่อวัสดุรูพรุนสูงรูปแบบใหม่ที่ทำขึ้นว่า “พอร์แมท” (Poremat)” วัสดุรูพรุนระดับไมครอนน้ำหนักเบา อุมาพร กล่าว

สำหรับขยะหลังโรงสีหรือแกลบนั้น การกำจัดแกลบและเถ้าที่ได้จากการสีข้าว โรงสีขนาดใหญ่บางแห่งจะนำแกลบมาเข้ากระบวนการเผาเอาความร้อน เพื่อผลิตไอน้ำไปหมุนใบพัดสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้ภายใน ส่วนโรงสีขนาดเล็กจะใช้วิธีการฝังกลบหรือเผา ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้เถ้าแกลบหมดไปแล้วยังก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ ด้วยปัญหาดังกล่าวทีมวิจัยจึงลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างนำแกลบและเถ้ามาศึกษาคุณสมบัติเชิงโครงสร้าง ทำให้พบว่าภายในของวัสดุทั้งคู่เต็มไปด้วยรูพรุน
           
น.ส.อุมาพร เสนวิรัช นักวิจัยหน่วยวัสดุเพื่อสิ่งแวดล้อม ระบุว่า พอร์แมทมีสมบัติความพรุนตัวสูง โดยมีขนาดรูพรุนตั้งแต่ระดับไมครอนจนถึงมิลลิเมตร สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า จากการที่มีซิลิกาเป็นส่วนประกอบมากกว่า 90% มีความหนาแน่น 0.8-0.9 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร เบากว่าหินธรรมชาติประมาณ 2.5 เท่า แต่มีความทนทานเหมาะแก่การใช้ซ้ำ ผู้ใช้งานจึงนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งใช้เป็นวัสดุปลูกทดแทนดินสำหรับการปลูกพืชในระบบ, ใช้เป็นวัสดุกรองของเสียแทนแผ่นกรองในตู้ปลา แม้กระทั่งวัสดุทางศิลปะก็เป็นที่นิยมใช้เพราะมีน้ำหนักเบาและยึดเกาะได้ดี
     
ในส่วนของการพัฒนา นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ระบุว่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์อยู่ในขั้นต้นแบบสำหรับการผลิต (pilot scale) โดยมีโรงงานที่มีกำลังการผลิตเม็ดอยู่ที่ 120 ลิตรต่อชั่วโมงซึ่งถือว่ามากพอสมควร แต่อย่างไรก็ดีขั้นตอนต่อไปคือ การมองหานักลงทุนที่สนใจมารับช่วงนวัตกรรมต่อ เพราะศูนย์วิจัยฯ มีหน้าที่พัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ภาคประชาชนเป็นผู้มารับช่วงไปต่อยอด ไม่มีหน้าที่ผลิตสินค้าเพื่อขายเอง โดยอุมาพร ได้มองแนวโน้มทางการตลาดไว้อีกด้วยว่า นวัตกรรมเม็ดเถ้าแกลบพอร์แมท จะเหมาะกับผู้ลงทุนที่มีวัตถุดิบเถ้าแกลบเป็นของตัวเอง เช่น เจ้าของโรงสี โรงไฟฟ้า หรือ โรงงานที่ใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิงประมาณเดือนละไม่ต่ำกว่า 50 ตัน
     
เนื่องจากโรงสี มีเถ้าแกลบต่อปีอยู่เยอะมาก ปีหนึ่งนับพันนับหมื่นตัน หากนำเงินตรงนั้นมาลงทุนกับนวัตกรรมพอร์แมท จะทำให้ขยะเหล่านั้นกลายเป็นเงิน ซึ่งขยะที่ออกมาก็คือเงินที่เขาต้องจ่ายสำหรับขั้นตอนการกำจัดให้หมดไป  เพราะเถ้าแกลบทุกชิ้นจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ใหม่จากเดิมที่ต้องนำไปเผาหรือฝังกลบ และส่วนตัวก็เชื่อว่านวัตกรรมนี้เมื่อเข้าสู่มือเอกชนแล้วจะไปได้สวย เพราะพอร์แมทมีสมบัติความพรุนตัวสูง โดยมีขนาดรูพรุนตั้งแต่ระดับไมครอนจนถึงมิลลิเมตรเทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) ซึ่งตลาดของกลุ่มบำบัดน้ำบ่อปลาสวยงามเพื่อใช้ทดแทนปะการัง มีความต้องการวัสดุแบบพอร์แมทขั้นต่ำ 50 ตันต่อเดือน ยังไม่นับรวมกับกลุ่มจัดสวนแนวตั้ง หรือสวนดาดฟ้าที่ต้องการประมาณ 100 ตันต่อเดือน ภาพรวมการตลาดของพอร์แมทจึงน่าสนใจและคุ้มค่าแก่การลงทุน” นักวิจัย กล่าว
     
Cr.ผู้จัดการ

ไฮโซม่านฟ้า ถูกโจรงัดประตูรถโฟล์คสวาเกน ที่กองถ่ายภาพยนตร์ และข่าวล่ามาแรง หมั้นแล้วกับนักธุรกิจชาวลาว เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศลาว เลยต้องบินไปบินมาอยู่บ่อยๆ จริงไหม ?

ไฮโซม่านฟ้า


ไฮโซม่านฟ้า ถูกโจรงัดประตูรถโฟล์คสวาเกน ที่กองถ่ายภาพยนตร์ และข่าวล่ามาแรง  หมั้นแล้วกับนักธุรกิจชาวลาว เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศลาว เลยต้องบินไปบินมาอยู่บ่อยๆ จริงไหม ?


หายหน้าหายไปตานานมาก  ไฮโซม่านฟ้า…เพราะไฮโซม่านฟ้ามัวแต่วุ่นอยู่กับโปรเจคธุรกิจพันล้าน!! และเมือเร็ว ๆ นี้  ไฮโซสาว ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา ถูกโจรงัดประตูรถโฟล์คสวาเกน สีดำ ที่กองถ่ายภาพยนตร์ "เก็บศพ 100 วัน" ที่ป่าช้า จ.ราชบุรี ระหว่างที่กองถ่ายภาพยนตร์ซึ่งมี ไฮโซม่านฟ้า ร่วมแสดง กำลังปักหลักทำงานอยู่นั้น เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่กองถ่ายภาพยนตร์ "เก็บศพ 100 วัน" ไฮโซสาวพร้อมเลขาส่วนตัว วิ่งมาบอกกองถ่ายว่ารถโดนงัด โดยได้เห็นเหตุการณ์ขณะคนร้าย 2 คน กำลังงัดรถด้วย ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป จากนั้น ตำรวจจึงได้เข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ นอกจากรถของ ไฮโซม่านฟ้าแล้ว ยังมีรถของทีมงานและนักแสดงอื่นที่โดนงัดด้วยอีกรวม 5 คัน

ล่าสุดพอมีโอกาสเจอกับ “ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” อีกครั้ง บรรดาสื่อก็เลยต้องขอเข้าไปจ่อไมค์เคลียร์ข่าวเม้าท์ข้ามประเทศสักหน่อยว่า จริงหรือเปล่าที่เจ้าตัวเพิ่งจะเข้าพิธีหมั้นหมายกับนักธุรกิจใหญ่ชาวลาว!? ซึ่งงานนี้ทำเอาสาวไฮโซม่านฟ้าถึงกับต้องรีบออกมาปฏิเสธด่วนๆ ว่า ตอนนี้สถานะหัวใจยังคงโสดสนิทเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนข่าวลือที่บอกว่าหมั้นหมายแล้ว จริงๆ เป็นแค่การแซวกันในหมู่เพื่อนฝูงเท่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวต้องบินไปบินมาระหว่าง ไทย-ลาว บ่อยๆ แถมยังได้นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ใจดีเข้ามาให้ความช่วยเหลือ คนก็เลยอาจจะคิดกันไปเองว่าหนุ่มคนดังกล่าวคือว่าที่คนรู้ใจ…ไฮโซม่านฟ้า

ตามข่าวที่ออกมาเขาบอกว่าหนุ่มที่จะหมั้นกับ“ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา”เป็นทายาทนักธุรกิจใหญ่ชาวลาว เลยต้องบินไปบินมาอยู่บ่อยๆ ?
“อ๋อ อันนั้นบินไปทำธุรกิจเฉยๆ (หัวเราะ) ซึ่งคนที่ม่านคุยงานด้วยเขาก็เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศลาว แถมยังเป็นคนที่คอยสนับสนุนให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าของม่านด้วย จะเรียกว่าเป็นการร่วมทุนก็ได้ เพราะเราทำธุรกิจร่วมกัน ดังนั้นมันจึงมีสาเหตุที่ทำให้ต้องคุยกันบ่อยๆ”

ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า“ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” กำลังจะหมั้น ? จริงไหม ?
“ไม่ใช่ ยังไม่หมั้นนะคะ ยังไม่ได้หมั้นกับใคร และก็ยังไม่ได้มีใครเป็นพิเศษด้วย แถมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เข้ามาพูดคุยกันทั่วไปมากกว่า เม้าท์นะคะ (หัวเราะ)”

แล้ว “ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” งงไหมที่อยู่ดีๆ ก็มีข่าวออกมาว่าเรากำลังจะหมั้น ?
“หมั้นมองว่ามันน่าจะเป็นในลักษณะของการแซวกันมากกว่า คือแบบเวลาเพื่อนเจอเพื่อนก็จะแซวกันประมาณว่าหมั้นได้แล้วนะ แต่งได้แล้วนะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรเลย อย่างแหวนที่ม่านสวมอยู่ตอนนี้ก็เป็นแหวนที่ม่านซื้อเอง เพราะว่าถ้าผู้ชายจะซื้อให้จริงๆ แหวนต้องใหญ่กว่านี้ค่ะ (หัวเราะ)”

เรียกว่าแต่ละคนที่“ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” มีข่าวด้วยนี่ต้องเป็นระดับมหาเศรษฐีอย่างเดียวเลย ?
“ก็อย่างที่ทราบเนอะ ตัวม่านอาจจะมีภาพลักษณ์อยู่ในพาร์ทนักธุรกิจมากกว่า มันก็เลยน่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราเจอกับนักธุรกิจเยอะ ซึ่งถ้าหากม่านมาอยู่ในพาร์ทดารา ม่านก็อาจจะได้เจอกับดารามากกว่าก็ได้”

จริงๆ หนุ่มนักธุรกิจชาวลาวคนนี้มีลุ้นไหมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ กับ เรา “ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา”  ?
“ยังค่ะๆ ยังไม่ได้ เอาเป็นว่าตอนนี้ขอคุยกันไปก่อนดีกว่าเนอะ แต่ถามว่าประทับใจเขาตรงไหน เอ่อ…ก็คงจะเป็นเรื่องที่เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูง และก็มีความรู้ในเรื่องธุรกิจค่อนข้างหลากหลายด้าน แถมที่สำคัญคือทำธุรกิจเก่งมากๆ เลยค่ะ”

หนุ่มคนนี้อายุห่างกับ“ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” เยอะมากไหม ?
“ก็นิดหนึ่งค่ะ แต่ถามว่าม่านเปลี่ยนสเปคมาชอบคนอายุเยอะไหม เอ่อ…จริงๆ ม่านชอบคนอายุเยอะแล้วอยู่นะ คือม่านไม่ใช่ผู้หญิงแอ็บแบ๊วไง ม่านเป็นสายตรง (หัวเราะ) ตอบตรงๆ ค่ะ”

รู้สึกยังไงบ้างที่คนในประเทศลาวชมว่าเรา “ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” เป็นสาวนักธุรกิจที่สวยมากๆ คนหนึ่ง ?
“ม่านก็ต้องขอบคุณคนลาวนะคะ เพราะเหมือนว่าเขาน่าจะชื่นชอบเราจากการที่เขาดูสื่อไทย เลยทำให้ค่อนข้างจำม่านได้ (ยิ้ม) ขนาดตอนที่ม่านเดินทางไปเวียงจันทร์เซ็นเตอร์ครั้งแรก คนยังกรี๊ดแบบว่าตัวม่านเองยังตกใจเลย เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าในชีวิตจะมีคนมากรี๊ดให้เราขนาดนั้น”

จะมีโอกาสไหมที่“ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” จะไปทำงานในวงการบันเทิงที่นั่น ?
“งานละครอาจจะไม่ใช่แนวม่านค่ะ แต่ถ้าเป็นธรุกิจก็พอไหวอยู่ เพราะอย่างงานพรีเซ็นเตอร์ก็มีติดต่อเข้ามาเยอะแล้วเหมือนกัน”

“ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” มองว่าต้องอายุเท่าไหร่ถึงจะพร้อมแต่งงาน ?
“น่าจะ 35 นะคะ ถ้า 40 ก็อาจจะเยอะไป (หัวเราะ)”

Cr. Sanook,ที่นีดอทคอม

Monday, December 19, 2016

ผลงานวิจัยไทย เครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ ฝีมือไทย โดยสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬา เป็นผลสำเร็จ

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


ผลงานวิจัยไทย เครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ ฝีมือไทย โดยสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬา เป็นผลสำเร็จ 

     
ผลงานวิจัยไทยเครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ โดย รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ไศละสูต หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยโรคมะเร็งในสัตว์เลี้ยง ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลงานการพัฒนาอุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็ง อุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็งดังกล่าวออกแบบโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ตามโจทย์ของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬา และใช้ชิปที่ผลิตขึ้นโดยศูนย์เทคโนโลยีไทยไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (TMEC) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
     
ก้าวแรกคัดแยกอนุภาคเรียงตามขนาดได้ตามต้องการด้วยอุปกรณ์คัดแยกเซลล์นั้นอาศัยชิปที่มีช่องรับของเหลว 2 ช่อง เป็นของเหลวจากสัตว์และสารละลายลดความข้นหนืด ซึ่งใช้ปั๊มป์ฉีดเพื่อควบคุมอัตราการไหลของของเหลวลงช่องดังกล่าว จากนั้นเมื่อของเหลวผสมกันแล้วจะไหลไปตามท่อที่ขดเป็นวงบนชิป และมีทางแยกสำหรับคัดแยกอนุภาคหรือเซลล์ขนาดต่างๆ 10 ทาง ของเหลวที่ผ่านมาการคัดแยกจะไหลเข้าหลอดฉีดยาสำหรับเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปศึกษาพฤติกรรมของเซลล์ต่อไป และศึกษาพฤติกรรมการแพร่กระจายของมะเร็ง
     
รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา เผยว่า การพัฒนาอุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็งมีจุดเริ่มต้นมาจากโจทย์ของสัตวแพทย์ที่ต้องการศึกษาเซลล์เดี่ยว ซึ่งในร่างกายนั้นมีเซลล์อยู่หลายเซลล์ แต่สัตวแพทย์อยากรู้ว่าเซลล์ตัวใดที่ทำให้เกิดการแบ่งตัวผิดปกติหรือแพร่กระจายของมะเร็ง  ด้าน ผศ.ดร.อลงกรณ์ พิมพ์พิณ จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ อธิบายถึงแนวคิดในการออกแบบอุปกรณ์คัดแยกเซลล์มะเร็งว่ามีขนาดประมาณ 40 ไมครอนเทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)  เมือได้รับโจทย์จากสัตวแพทย์ที่ต้องการศึกษาชีวภาพของเซลล์ ดังนั้นต้องไม่ใช้แรงกระทำภายนอกที่ทำให้เกิดผลกระทบทางชีวภาพของเซลล์ จึงใช้แรงกลที่ผลต่อเซลล์น้อยที่สุด
     
ทีมวิจัยเครื่องคักแยกเซลล์มะเร็งในสัตว์ได้ใช้หลักการไหลจุลภาค (micro fluid) โดยปล่อยให้ของเหลวไหลผ่านท่อโค้ง ซึ่งทำให้เกิดแรงดีน (Dean) ที่เกิดเนื่องจากการไหลหมุนวนในหน้าตัดท่อโค้ง ซึ่ง ผศ.ดร.อลงกรณ์ อธิบายว่า แรงดีนจะช่วยแยกเซลล์ขนาดต่างๆ ได้ เนื่องจากจะเกิดแรงดีนที่แตกต่างกันไปตามขนาดของเซลล์หรืออนุภาค ขนาดของเซลล์นั้นมากและมีขนาดประมาณ 40 ไมครอน สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า จึงไม่สามารถใช้แรงภายนอกเพื่อคัดแยกเซลล์ออกมาได้ ส่วนขนาดหน้าตัดของท่อโค้งคือ 130x500 ไมครอน จึงไม่สามารถสร้างด้วยเทคโนโลยีปกติ ต้องใช้เทคโนโลยีของ TMEC  ผศ.ดร.อลงกรณ์กล่าว
     
ด้าน วิศรุต ศรีพุ่มไข่ หนึ่งในทีมวิจัยจาก TMEC อธิบายถึงการพัฒนาชิปว่า ต้องมีแม่แบบโดยจะใช้เทคโนโลยีอะไรก็ได้ แต่ต้องสร้างให้ได้ขนาดเล็กและตรงตามแบบที่ต้องการ ซึ่ง TMEC มีความเชี่ยวชาญในการผลิตแผ่นซิลิกอนเวเฟอร์ และได้นำมาประยุกต์ในการทำชิปขนาดเล็ก โดยในขั้นตอนการผลิตชิปสำหรับอุปกร์ณคัดแยกเซลล์นี้ได้ใช้พอลิเมอร์ PDMS ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่ไม่เป็นพิษและมีความใส เทลงบนแม่พิมพ์ซึ่งเป็นแผ่นซิลิกอน จากนั้นลอกออกมาแล้วประกบกับกระจก จึงได้ชิปที่มีร่องให้ของเหลวไหลผ่านได้
     
จากการความร่วมมือในการพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าว รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยาระบุว่า การคัดแยกอนุภาคเม็ดพลาสติกขนาดต่างๆ ได้ผลดี โดยเป้าหมายต่อไปคือการคัดแยกเซลล์จริงให้มีชีวิตรอดได้ ซึ่งจากการทดลองในเซลล์สุนัขที่ผ่านมายังพบว่าเซลล์แตกและตายระหว่างคัดแยก เนื่องจากเซลล์ที่แยกออกมาจากร่ากายนั้นมีสภาพอ่อนแอมาก ไม่ทนต่อแรงที่ใช้ในการคัดแยก และอีกเป้าหมายคือการทำหลุมรองรับเซลล์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมของเซลล์หลังการคัดแยกได้ทันที โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีจึงได้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

Cr.ข่าวผู้จัดการ

เกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่ตลาดขายของงานคริสต์มาส ที่จัตุรัสไบรท์ไชแพลตซ์ ณ กรุงเบอร์ลิน (Berlin) มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน

Berlin


เกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่ตลาดขายของงานคริสต์มาส ที่จัตุรัสไบรท์ไชแพลตซ์ ณ กรุงเบอร์ลิน (Berlin) มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน


ณ กรุงเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของเยอรมนี เกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่ตลาดขายของงานคริสต์มาส ที่จัตุรัสไบรท์ไชแพลตซ์ ใกล้ถนนคูร์เฟอร์สเตนดัมม์ ย่านการค้าหลังในภาคตะวันตกของกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 19 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บอีก 50 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าโบสถ์ ไคเซอร์ วิลเฮล์ม อนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตำรวจเชื่อว่า เหตุการณ์นี้เป็นการจงใจ และคนขับรถบรรทุกที่ใช้ในการก่อเหตุถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน เสียชีวิต แต่ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุ สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน

เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงเบอร์ลิน (Berlin) บอกกับสื่อมวลชนเยอรมนีหลังเกิดเหตุ ว่า เหตุการณ์ขับรถพุ่งชนครั้งนี้ดูเหมือนเป็นการลงมือโดยตั้งใจ เหตุการณ์นี้ย้อนให้นึกถึงเหตุโจมตีที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนกรกฎาคม โดยชายคนหนึ่งซึ่งเกิดในตูนิเซีย ขับรถบรรทุก 19 ตัน แล่นไปตามถนนเลียบชายหาด กวาดผู้คนที่รวมตัวกันเฝ้าดูการจุดพลุฉลองวันชาติ คร่าชีวิต 86 ศพ การโจมตีที่พวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างความรับผิดชอบ

โฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมตรีเยอรมนี รับฟังรายงานสรุปสถานการณ์จากรัฐมนตรีมหาดไทย และนายกเทศมนตรีเบอร์ลิน ขณะที่ตำรวจบอกว่าไม่พบสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับสถานการณ์อันตรายเพิ่มเติม แต่เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ รถบรรทุกพุ่งเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุดช่วงหนึ่ง ด้วยผู้ใหญ่และเด็กๆ มักจะรวมตัวตามกระท่อมไม้เก่าแก่ต่างๆ ที่ขายอาหารและสินค้าคริสต์มาส ซึ่งจำลองการเฉลิมฉลองประจำปีของทั่วเยอรมนีและเมืองอื่นๆ ของยุโรป   “ผมตกใจอย่างมากกับข่าวคราวเหตุการณ์อันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้น ณ โบสถ์อนุสรณ์ ในเบอร์ลิน” ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเยอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี กล่าว “มีคนจำนวนมากที่เดินทางมายังโบสถ์ในวันนี้ ต้องมาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ”      

ขณะที่นาง เอมมา รุชตัน พยานผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า รถบรรทุกที่ใช้ในการก่อเหตุคันนี้พุ่งเข้ามาโดยไม่ชะลอความเร็วลงเลย และวิ่งเข้าใส่ทางเดินที่เต็มไปด้วยผู้คนด้วยความเร็วประมาณ 40 ไมล์ต่อชั่วโมง ไม่มีทางที่นี่จะเป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน อีกด้านหนึ่ง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน (Berlin) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy, (Berlin) ว่า อยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดกับกระทรวงต่างประเทศสหพันธ์ฯ และตำรวจสันติบาลแผนกคณะทูตต่างประเทศ ประชาชนไทยสามารถแจ้งหรือสอบถามข้อมูลกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลินได้ที่หมายเลขฉุกเฉิน +49 152 0351 9139 และ +49 162 520 7553

Cr.ไทยรัฐ,ผู้จัดการ

มารู้จัก...จุลินทรีย์ แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ระดับไมครอน ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วย ตาเปล่า

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


มารู้จัก...จุลินทรีย์ แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์  สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ระดับไมครอน ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วย ตาเปล่า


จุลินทรีย์ คือ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วย ตาเปล่า เพราะมีมีขนาดเล็กถึง 0.5 ไมครอน (micron) ซึ่ง 1 ไมโครเมตร เทียบเท่ากับ 1 พันของมิลลิเมตร (1/1,000 มิลลิเมตร) ความเล็กขนาดนี้สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัดชนิด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) แล้ววิธีดูนั้นต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์เป็นเครื่องมือช่วยในการมองเห็นจุลินทรีย์มีอยู่ทั่วไปทั้งในน้ำ ในดิน ในอากาศ ในร่างกาย ของคน สัตว์ รวมทั้งส่วนต่างๆ ของพืชหรือแม้แต่ในสภาวะแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ไม่ได้ เช่น ในน้ำพุร้อน ในน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิเย็นจัด บริเวณที่มีความเป็นกรดด่างสูง หรือแม้กระทั่ง ในบริเวณที่ไม่มีออกซิเจน เราอาจจะมองเห็นกลุ่มก้อนของจุลินทรีย์เมื่อมันอยู่รวมกัน เรามองเห็นราดำที่ขึ้นบนแผ่นขนมปังหรือราสีแสดบนซังข้าวโพด หรือจุดสีดำที่กระจายอยู่บนเนื้อผ้าที่เปียกชื้นกองทับกันเป็นเวลานาน ประเภทของจุลินทรีย์ ได้แก่ แบคทีเรีย, รา, สาหร่าย, โปรโตซัว และไวรัส

แบคทีเรีย คือจุลินทรีย์ที่เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวซึ่งมีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แบบโปรแคริโอต ประกอบด้วยนิวเคลียสแต่ไม่มีเยื่อหุ้ม และยังเป็นสิ่งมีชีวิต ที่พบได้ในเกือบทุกสภาวะแวดล้อม ทั้งดิน นำ อากาศ และในสิ่งมีชีวิตด้วยกันอย่างพืช สัตว์ คน หรือแม้แต่ในสภาวะแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ไม่ได้ เช่น ในน้ำพุร้อน ในน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิเย็นจัด บริเวณที่มีความเป็นกรดด่างสูง หรือแม้กระทั่งในบริเวณที่ไม่มีออกซิเจน มีรูปร่าง กลม ท่อนและเกลียว มีทั้งเคลื่อนที่ได้และเคลื่อนที่ไม่ได้ ส่วนใหญ่มีการสืบพันธุ์โดยการแบ่งตัว มีขนาด 0.5-10 ไมครอน (micron) สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า มีรูปร่างต่างๆกัน แบ่งตามการย้อมสีได้ 2 ลักษณะคือพวกที่ติดสีน้ำเงินจัดเป็นแกรมบวก และติดสีแดงจัดเป็นแกรมลบ ผู้ที่ได้ทำการสังเกตจนค้นพบแบคทีเรียเป็นคนแรกนั่นก็คือ อังตวน แวน เลเวนฮุค (Antonie van Leeuwenhoek)นักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์

เชื้อราคือสิ่งมีชีวิตทั้งที่เป็นเซลล์เดียว เส้นใย ตลอดจนเจริญขึ้นไปจนเป็นดอกเห็ด จัดเป็นสิ่งมีชีวิตพวกยูคาริโอต เนื่องจากมีนิวเคลียสที่แท้จริง โดยที่นิวเคลียสและเซลล์ต่างๆ มีเยื่อหุ้มเซลล์ โครงสร้างทั่วไปประกอบด้วยเส้นใยที่มีจำนวนมาก และจะสานต่อเนื่องกันเป็นร่างแห ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ ต้องอาศัยการดูดซึมอาหารที่ได้จากการย่อยสลายสารอินทรีย์ต่างๆ เชื้อราส่วนใหญ่มักสืบพันธุ์ด้วย การสร้างสปอร์

ยีสต์ คือเชื้อราชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะแปลกจากเชื้อรา ตรงที่มีการดำรงชีวิตอยู่ในสภาพเซลล์เดียวมากกว่าที่จะเจริญเป็นเส้นใย แม้ว่ายีสต์บางชนิดจะมีการสร้างเส้นใยแต่ก็ไม่เด่นชัดเหมือนเชื้อราทั่วไป ยีสต์ส่วนใหญ่ไม่เคลื่อนที่ แต่มีการเคลื่อนไหวแบบบราวเนียน และเพิ่มจำนวนด้วยการแตกหน่อ

Cr.แนวหน้า

Sunday, December 18, 2016

“มังกรไฟ” สโมสรบีอีซี เทโร ศาสน ประกาศขายทีม นายไบรอัน แอล มาร์คา ถอดใจประกาศขายทีมบีอีซี เทโรฯ ที่ทำเงินและผลงานอย่างต่อเนื่องมาเกือบ 20 ปี

มังกรไฟ


“มังกรไฟ” สโมสรบีอีซี เทโร ศาสน ประกาศขายทีม นายไบรอัน แอล มาร์คา ถอดใจประกาศขายทีมบีอีซี เทโรฯ ที่ทำเงินและผลงานอย่างต่อเนื่องมาเกือบ 20 ปี


ตามที่เราได้ทราบกันแล้วว่า “มังกรไฟ” สโมสรบีอีซี เทโร ศาสน ประกาศขายทีมมาตั้งแต่จบฤดูกาล 2015 (พ.ศ. 2558) หลังต้องหล่นไปเล่นดิวิชั่น 1 ทว่า เคราะห์ดีที่สโมสรเพื่อนตำรวจ ติดปัญหาด้านตลาดหลักทรัพย์ จนต้องถูกตัดออกจากการแข่งขัน ทำให้ สโมสรบีอีซี เทโร ศาสน “มังกรไฟ” ยังสามารถผงาดรักษาสถิติเป็นทีมที่ไม่ตกชั้นไทยลีกนานที่สุด ตั้งแต่ปี 2539 แต่ถึงกระนั้น บมจ.บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ได้ขายหุ้นของ บริษัท บีอีซี เทโร ศาสน จำกัด ให้แก่บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.สยามสปอร์ต) จำนวน 999,997 หุ้น หรือคิดเป็น 99.99% ของหุ้นทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 135 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นเงินสด 90,000,000 บาท พร้อมได้สิทธิในการลงโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์อีก 45,000,000 บาท

เรื่องสโมสรบีอีซี เทโร ศาสน ประกาศขายทีม ดังกล่าว ประธานใหญ่ทีม“มังกรไฟ” ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ว่า “ผมจะขอยุติบทบาทการทำทีมฟุตบอลบีอีซี เทโรศาสน เป็นที่แน่นอนแล้ว ด้วย 2 เหตุผล ทั้งที่จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลมาก แถมผมยังเป็นคนบริหารทีมบีอีซี เทโรฯมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 เป็นเวลา 23 ปี ผมผ่านร้อนผ่านหนาวในเวทีลูกหนังไทยมาเยอะมีทั้งดีใจกับความสำเร็จและเสียใจเมื่อทีมล้มเหลว” ไบรอันกล่าวต่อไปว่า “แต่วันนี้ผมมีความรู้สึกเบื่อสุดๆและได้ไตร่ตรองดูแล้วว่า ถึงเวลาที่ผมต้องพักและพอแล้ว ในเมื่อทีมผมไม่ได้รับความยุติธรรมกับเกมที่พบกับแบงค็อกฯที่ใครก็รู้ดีว่าแบงค็อกฯผิดเต็มๆกับการส่งผู้เล่นต่างชาติเกินโควตา แต่มีการ ตัดสินให้ผมเป็นฝ่ายแพ้ ในเมื่อทำทีมแล้วไม่ได้รับความยุติธรรมก็ไม่รู้จะทำต่อไปอีกทำไม อีกเหตุผลคือภรรยาผมก็ไม่เห็นด้วยที่ผมทุ่มเทให้กับฟุตบอลเพราะที่ผ่านมา 20 กว่าปีนั้นผมหมดเงินส่วนตัวไปกับการทำทีมฟุตบอลนับพันกว่าล้านบาท ภรรยาผมบอกให้พอได้แล้ว”

โดย บมจ.บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ก็ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีหลักฐานเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายหุ้นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 และลงนามในตราสารการโอนหุ้นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ก่อนจะมีการประกาศยกสิทธิ์การทำทีมให้กับ กลุ่มทุนอุดรธานี และเตรียมโยกไปใช้สนามกีฬาราชภัฏอุดรธานีเป็นรังเหย้าในปี 2017 (พ.ศ. 2560) เช่นเดียวกับทีม ไทยลีก “ยักษ์แสด” อุดรธานี เอฟซี ในลีกภูมิภาค
     
หากมองให้ลึกกว่านั้น สิทธิในการลงแข่ง ไทยลีก ไม่ใช่ของสโมสรบีอีซี เทโรศาสน แต่เป็นของอดีตนายกสมาคมฟุตบอลฯ นายวรวีร์ มะกูดี ที่ก่อตั้งทีมในชื่อ โรงเรียนศาสนวิทยา แต่ต้องวางมือลงหลังจากได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ แต่ก็ยังมีคนเชื่อว่า “บังยี” ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ยืมชื่อคนอื่นเข้ามาเป็นหัวโขนในการบริหารทีมเท่านั้น ทีนี้คงถึงบางอ้อกันแล้วสิว่าเหตุใด นายไบรอัน แอล มาร์คา ถึงถอดใจประกาศขาย“มังกรไฟ”ทีมบีอีซี เทโรฯ ที่ทำเงินและผลงานอย่างต่อเนื่องมาเกือบ 20 ปี มีผลงานหวานหอม ทั้งแชมป์ไทยลีก 2 สมัย (ปี 2543 - 2544), รองแชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก (ปี 2546), รองแชมป์เอฟเอคัพ (ปี 2552) และ แชมป์โตโยต้าลีกคัพ (ปี 2557)
     
น่าแปลกใจที่สิทธิในการลงแข่งขัน ไทยลีกกลับไม่ได้ขึ้นอยู่กับสโมสร แต่ขึ้นอยู่กับ “เจ้าของสิทธิ์” และให้หยิบให้ยืมสโมสรกันได้ ราวกับเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ แบบนี้คงไม่แปลกใจหากจะมีใครซักคนที่มีสิทธิ์ในการแข่งขันไทยลีก นำคณะบริหารชุดใหม่ และนักเตะชุดใหม่ข้ามหัวนักเตะเดิมได้อย่างสบายตัว โดยไม่ต้องแข่งไต่ลีกขึ้นมาเหมือนทีมที่อยู่ต่ำชั้นกว่า เรื่องสิทธิ์ในการลงแข่งของ “มังกรไฟ” ก็นับเป็นเรืองหมกเม็ดอีกเรื่องของวงการฟุตบอลไทย ที่ยิ่งสาวใส้ยิ่งเหม็นโฉ่เข้าไปทุกที      

ดังนั้น การหวังพึ่งท่อน้ำเลี้ยงจากสปอนเซอร์เป็นหลัก จึงถือเป็น 1 ใน “ความเสี่ยง” ที่สโมสรฟุตบอลของอาชีพของไทย หากวันใดผลงานไม่เป็นไปตามเป้า หรือกระแสความนิยมลดลงจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเรื่องนี้ทาง “บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และโฆษกประจำสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ยังหาทางแก้ไม่ได้ เนื่องจากผู้บริหารหลายสโมสรยังต้องการเห็นผลกำไรจากการทำทีมฟุตบอล เมื่อไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้จึงมีการถอนตัวออกไปในที่สุด
     
“ปัจจุบันสมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกกฏคลับไลเซนซิ่งเพื่อควบคุมดูแลทุกสโมสรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีกฎห้ามการปรับเปลี่ยนสโมสรอย่างน้อย 2 ปี เพื่อให้ทีมมีความมั่นคง แม้จะยังช่วยให้ทุกทีมพัฒนาเท่าเทียมกันได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่าในอนาคตไทยลีกจะมีความมั่นคง และมีการแข่งขันที่สนุกสนามกว่านี้แน่นอน” โฆษกประจำสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าว

Cr. ผู้จัดการ,ไทยรัฐ

นวัตกรรม มูลค่าเพิ่ม ผลิตผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลส ขนาดเล็กมาก ระดับไมครอน

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


นวัตกรรม มูลค่าเพิ่ม ผลิตผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลส ขนาดเล็กมาก ระดับไมครอน


นวัตกรรมใหม่  ๆ เพื่อเป็นการดำเนินรอย “กษัตริย์นักคิด นักพัฒนา” ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ประกอบการและนักออกแบบต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการพัฒนา “ความคิดสร้างสรรค์” ให้สอดรับกับกระแสยุคปัจจุบัน เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นนวัตกรรมที่มีมูลค่า โดยไม่ลืมรากฐานความเป็นไทยที่มีความได้เปรียบเป็นทุนเดิม เป็นหนึ่งในทางออกที่จะขับเคลื่อนประเทศไทย ได้อย่างยั่งยืน

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการต่าง ๆ ภายในประเทศ ให้สามารถดึงความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์กับทุนทางวัฒนธรรมและสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ ให้มีการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่ม “มูลค่า”สูงสู่สายตาประชาคมโลก โดยได้จัดทำนิทรรศการ “Baht & Brain” เพื่อนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของผู้ประกอบการที่สามารถนำความคิดสร้างสรรค์มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการได้

หนึ่งในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่ม “มูลค่า”สูงสู่สายตาประชาคมโลก นั้นคือ กลุ่มหัตถกรรม (Craft) หนึ่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นจากศิลปวัฒนธรรมไทยที่กลายเป็นที่รู้จักระดับโลก โดยธุรกิจงานฝีมือและหัตถกรรมเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของงานออกแบบและงานศิลปะของไทย จึงเป็นแหล่งรวมของแรงงานสร้างสรรค์ที่มีมากกว่า 323,000 คนทั่วประเทศ  ฉะนั้นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดในการผลิตงานฝีมือ ทั้งในด้านการเพิ่มปริมาณการผลิต และสร้างความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ที่จะต่อยอดงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในปัจจุบันมากขึ้น และมีมูลค่าสูงขึ้นตามลำดับ

ตัวอย่างความสำเร็จของนักออกแบบในกลุ่มนี้ อาทิ การผลิตผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลสขนาดเล็กมากระดับไมครอน เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) การผลิตผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลสขนาดเล็กมากระดับไมครอนที่นำเสนอความแปลกใหม่ และสามารถนำไปใช้ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ เสื้อผ้าดีไซน์แปลกใหม่ กระเป๋าถือป้องกันคลื่นรบกวน และวัสดุบุผนังป้องกันคลื่นรบกวน

จารุพัชร อาชวะสมิต ผู้เป็นนักออกแบบและพัฒนาสิ่งทอ กล่าวว่า ความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจการออกแบบสิ่งทอของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมเริ่มต้นขึ้น เมื่อครั้งได้รับโอกาสในการทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา เพราะได้สัมผัสกับมุมมองของความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศจากโครงการในพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อย่างมากมากมาย ได้เรียนรู้ถึงความเป็นนักพัฒนาที่ไม่มีวันหยุดของพระองค์ท่าน

จารุพัชร อาชวะสมิต ผู้เป็นนักออกแบบและพัฒนาสิ่งทอ จึงตั้งมั่นว่าจะต้องใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านออกแบบสิ่งทอของตนเอง มาร่วมเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะทางด้านงานหัตถกรรมสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของไทย อันจะนำไปสู่การสร้างงานและการกระจายรายได้อย่างยั่งยืนสู่ชุมชนตามรอยพระราชดำริด้วย นวัตกรรมผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลสขนาดเล็กมากระดับไมครอนขึ้น

การปรับตัวให้สอดรับกับกระแสของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและอย่างรวดเร็วโดยยังคงตัวตนของท้องถิ่นไว้เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการพัฒนางานหัตถกรรมสิ่งทอ ความสร้างสรรค์และความแตกต่าง การทำความรู้จักและเปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จะทำให้หัตถกรรมสิ่งทอของไทยสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น"ผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลสขนาดเล็กมากระดับไมครอน ด้วยการสร้างสรรค์ทอผ้าจากโลหะ กล่าวเสริม

ยกตัวอย่างแนวคิดที่เธอได้พัฒนาการทอผ้าจากโลหะ ซึ่งมาจากไอเดียที่จะใช้วัสดุที่ก้าวข้ามความเชื่อเดิมๆ ก้าวข้ามการผลิตและการใช้งานเดิม ๆ และโลหะเป็นวัตถุดิบที่ความแข็งแกร่งแต่สามารถดึงให้กลายเป็นเส้นที่นิ่มนวลและเล็กได้ในระดับไมครอน ซึ่ง 1,000 ไมโครเมตรหรือไมครอน สามารถเทียบได้กับ  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) มาวัดค่า การทอผ้าจากโลหะระดับไมครอนจึงมีความหรูหรามันวาว แต่สามารถผ่านกรรมวิธีการทำให้เป็นคราบ (patina) ให้ดูเก่าและดิบได้ และเป็นวัสดุที่มีระบบธุรกิจทั้งมหภาคและจุลภาครองรับการรีไซเคิลอย่างกว้างขวาง

จากแนวคิดดังกล่าว จารุพัชร นักออกแบบและพัฒนาสิ่งทอ  ได้เริ่มต้นทดลองจากการใช้ สแตนเลส ทองแดง ทองเหลือง และดีบุก โดยผ้าทอสแตนเลสนั้นมีความพิเศษคือ ใช้เส้นใยขนาดเล็กหน่วยเป็นไมครอน เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) ซึงเล็กมากขนาดนั้น ทำให้ผ้าเบาโปร่งแสง และไม่ต้องใช้สารเคมีในการทำให้เกิดลายเลย เพราะลวดลายเกิดจากการให้ความร้อนที่ผิวเส้นใย ผ้าสแตนเลสมีผิวสัมผัสที่เรียบลื่นละเอียดคล้ายผิวสัมผัสของผ้าไหม สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการล้างและผึ่งให้แห้ง ไม่เกิดสนิม
ส่วนเส้นใยโลหะชนิดอื่นๆ เช่น ทองแดง ทองเหลืองใช้กรรมวิธีที่ทำให้เกิดคราบ (patina) เป็นตัวทำให้เกิดลาย ผลงานเหล่านี้อยู่ภายใต้แบรนด์ Ausara Surface ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักออกแบบตกแต่งภายใน นำไปใช้ในการตกแต่งโรงแรม คอนโดมิเนียม สนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัยทั้งในประเทศไทย เอเซียและยุโรป

จารุพัชร นักออกแบบและพัฒนาสิ่งทอ กล่าวทิ้งท้าย " ตนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า หากผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง ไม่หยุดอยู่กับที่ เปิดใจรับนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ จะสามารถพัฒนาธุรกิจ ด้วยการเปลี่ยนมันสมองและภูมิปัญญาไทยให้กลายเป็น จุดเด่น และเป็นที่ยอมรับในสายตาคนทั่วโลกได้"

Cr.ข่าว Eureka

9 วลีเด็ดของ “ปันปัน สุทัตตา” ยอมรับแก้ปลายจมูก หลังจากโดนทักเกรียวกราวว่าจมูกเปลี่ยนไป

ปันปัน


 9 วลีเด็ดของ  “ปันปัน สุทัตตา” ยอมรับแก้ปลายจมูก หลังจากโดนทักเกรียวกราวว่าจมูกเปลี่ยนไป


ปันปัน สุทัตตา” ยอมรับแก้ปลายจมูก หลังจากโดนทักเกรียวกราวว่าจมูกเปลี่ยนไป ซึ่งสาว “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” เลยเปิดใจตรงๆ ว่า ไปแก้ปลายจมูกมา ที่สำคัญ ปรึกษาครอบครัวแล้ว คาดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น บอกเป็นส่วนเดียวที่ไม่เข้ากับหน้า อ้อนทำมาแล้วอย่าด่ากันเลย เพราะแก้ไม่ได้ คาดครึ่งปีเข้าที่ ฟุ้งหนุ่มนอกวงการมาจีบ โสดเกือบสนิท! เผยยังเป็นนักแสดงอิสระ ไม่คิดเซ็นกับใคร

นับได้ว่า “ปันปัน สุทัตตา” เป็นอีกหนึ่งนักแสดงวัยรุ่นที่หลายคนต่างยอมรับในฝีมือการแสดงของเธอ ซึ่งเธอแม้สาว “ปันปัน สุทัตตา” จะมีอายุ 19 ปีเท่านั้น แต่เมื่อเธอได้มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น รวมถึงให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเธอ ก็มักจะมีวลีเด็ดๆ ให้แฟนๆ ได้ยินเสมอๆ ทาง “ดาราเดลี่” จึงได้ขอรวบรวม 9 วลีเด็ดของสาว “ปันปัน สุทัตตา” ที่เคยพูดไว้มาให้แฟนๆ ติดตาม ดังนี้

       1.เคยคิดออกจากวงการ แต่แล้วยังไงอะ ออกไปไม่มีงานทำ แต่เดินข้างถนนคนก็รู้จักอยู่ดี (จากแถลงกรณีโพสต์แรงใน IG )

       2.อยากให้ทุกคนเข้าใจ ว่าดาราก็เป็นคนเหมือนกัน (จากงานแถลงข่าว  i hate you i love you)

       3.จะให้หนูมาเดินยิ้มตลอดเวลา หนูก็ทำไม่ได้ มันก็เมื่อยปาก (จากงานแถลงข่าว  i hate you i love you)

       4.ถ้าเรามีทุกอย่างตอนนี้เรียบร้อยแล้ว เราจะทำร้ายชีวิตตัวเองไปเรื่อยๆ ทำไม (จากรายการ Club Friday SHOW วันที่ 10 ธันวาคม 2559)

       5.คนที่เขาด่าก็ปล่อยเขาด่า เขาก็คงสนุกของเขา ลองมาด่าหนูต่อหน้าสิ (จากรายการ Club Friday SHOW วันที่ 10 ธันวาคม 2559)

       6.ถ้าคบใครซักคนชีวิตต้องดีขึ้น ถ้ามีแล้วชีวิตเท่าเดิมหรือแย่ลงอย่ามาดีกว่า (จากรายการ Club Friday SHOW วันที่ 10 ธันวาคม 2559)

       7.แต่หนูก็จะยืนหยัดที่หนูเป็นตัวเองแบบนี้นะ ทุกคนจะมองว่าแรงนะ แต่หนูจะไม่ยอมสูญเสียความเป็นตัวตนของตัวเองไปกับวงการมายา หนูจะไม่ให้ความเฟคความอะไรพวกนี้มาดูดหนูเข้าไป (จากบทสัมภาษณ์เว็บไซต์เดลินิวส์)

       8.หนูมองว่าชื่อเสียงได้มาก็ดับได้ เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เราต้องตั้งใจเรียนไว้ (จากบทสัมภาษณ์ของ Thairath)

       9.ที่หนูขนของหรูมาเข้าฉากนั้น มองเป็นการช่วยทีมงานให้ทำงานกันสะดวก อย่าดราม่ากันเยอะ เพราะหนูไม่ได้ทำอะไรผิด (สัมภาษณ์จากรายการ EFM)

Cr. ข่าวผู้จัดการ, ดาราแดรีย์

Saturday, December 17, 2016

มอเตอร์ขนาดจิ๋ว(Micromoter) กำจัดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ ป้องกันปรากฏการณ์เรือนกระจก

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


มอเตอร์ขนาดจิ๋ว(Micromoter) กำจัดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ ป้องกันปรากฏการณ์เรือนกระจก


สักวันหนึ่ง อาจจะมีอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กกว่าความกว้างของเส้นผมมนุษย์นี้ อาจจะสามารถช่วยกำจัดมลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์ในมหาสมุทรก็เป็นไปได้ นั้นก็คือ มอเตอร์จิ๋ว วิศวกรนาโน จากมหาวิทยาลัย University of Californiaได้ประดิษฐ์มอเตอร์จิ๋ว(Micromoter)ทรงกระบอกขนาดเล็ก โดยมันสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วในน้ำ เพื่อกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิวของมอเตอร์จิ๋วนี้ได้ถูกดัดแปลงด้วยเอนไซม์คาร์บอนิกแอนไฮเดรส (enzyme carbonic anhydrase) ซึ่งช่วยทำให้มอเตอร์เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตได้อย่างรวดเร็ว

คณะวิจัยวิศวกรนาโนจากมหาวิทยาลัย University of California ในเมืองซานดิเอโก ได้ออกแบบมอเตอร์ขนาดไมครอน (ขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)) ที่ดัดแปลงพื้นผิวด้วยเอนไซม์ ซึ่งสามารถเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วภายในน้ำ  มอเตอร์ขนาดจิ๋วนี้สามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์และเปลี่ยนมันให้อยู่ในสถานะของแข็งที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้

คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of California ได้กล่าวว่า “งานวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบได้แสดงให้เห็นถึงหนทางที่เป็นไปได้ที่จะลดการก่อตัวของคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นแก๊สหลักที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก” คณะวิจัยนี้นำโดย ศาสตราภิชานทางด้านวิศวกรรมนาโนเทคโนโลยี ศ. Joseph Wang ซึ่งได้ตีพิมพ์ผลงานเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในวารสาร Angewandte Chemie

ในงานวิจัยของพวกเรา วิศวกรนาโนได้สาธิตให้เห็นว่า  มอเตอร์ขนาดจิ๋ว(Micromoter)สามารถกำจัดคาร์บอนที่ปนเปื้อนในน้ำได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 5 นาที จากสารละลายที่อิ่มตัวด้วยคาร์บอนไดออกไซด์มอเตอร์ขนาดจิ๋วสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากสารละลายในน้ำที่ถูกขจัดไอออนได้ถึง 90% และมันยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้อยู่ในน้ำทะเล โดยสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 88% ภายในระยะเวลาที่เท่ากัน

Kevin Kaufmann ผู้ช่วยนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการของ Wang และเป็นผู้เขียนร่วมในงานวิจัยนี้ด้วยได้กล่าวว่า “ในอนาคตมันมีความเป็นไปได้สูงที่เราจะใช้มอเตอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบบำบัดน้ำเสียเหมือนกับโรงงานกำจัดคาร์บอนในน้ำ” และ Virenda V. Singh นักวิจัยวิศวกรนาโนปริญญาเอก จากกลุ่มวิจัยของ ศ. Wang และเป็นผู้เขียนร่วมของงานวิจัยนี้ได้กล่าวว่า “พวกเราตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ในการนำมอเตอร์จิ๋วนี้ไปใช้ต่อสู้กับความเป็นกรดของน้ำในมหาสมุทรและภาวะโลกร้อนได้”

มอเตอร์ขนาดไมครอนนี้ (ดูว่าเล็กขนาดไหนน ลองเทียบขนาดดีว่า  1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)) เป็นทรงกระบอกยาว 6 ไมโครเมตร  ซึ่งช่วยเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเป็นแร่ธาตุของแข็งที่พบได้ในเปลือกไข่ กระดองสัตว์ เปลือกที่ห่อหุ้มตัวสัตว์น้ำอาหารเสริมแคลเซียมหลายชนิด และซีเมนต์

มอเตอร์จิ๋ว(Micromoter)นี้จะมีพอลิเมอร์หุ้มอยู่ที่ชั้นนอกสุด ซึ่งได้บรรจุเอนไซม์คาร์บอนิกแอนไฮเดรส ที่จะช่วยเร่งปฏิกิริยาระหว่างคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเพื่อก่อตัวเป็นไบคาร์บอเนต  และเมื่อเติมแคลเซียมคลอไรด์ลงในน้ำที่มีสารละลายอยู่ มันจะช่วยเปลี่ยนไบคาร์บอเนตให้เป็นแคลเซียมคาร์บอเนต คณะวิจัยได้กล่าวอีกว่า “การเคลื่อนที่ที่รวดเร็วและต่อเนื่องในสารละลายของมอเตอร์จิ๋วนี้ทำให้มอเตอร์มีประสิทธิภาพในการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากน้ำได้อย่างยอดเยี่ยม” คณะวิจัยได้อธิบายว่า การเคลื่อนที่โดยอัตโนมัติของมอเตอร์จิ๋วนี้ได้ไปเหนี่ยวนำการกวนผสมสารละลายให้เข้ากันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่การแลกเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ได้เร็วขึ้น

แหล่งพลังงานของมอเตอร์จิ๋ว(Micromoter)นี้ได้จากการเติมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงไป  ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับผิวของแพลตินั่มที่อยู่ข้างในของมอเตอร์  และก่อให้เกิดก๊าซออกซิเจนขึ้นในที่สุด โดยลำของฟองก๊าซนี้จะผลักดันให้มอเตอร์เคลื่อนที่ไปรอบๆ โดยเพียงแค่ใส่ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในน้ำเพียงเล็กน้อย 2-4% มอเตอร์ก็จะมีความเร็วในการขับเคลื่อนเร็วกว่า 100 ไมโครเมตร/วินาที

อย่างไรก็ตามการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับมอเตอร์จิ๋วถือเป็นข้อด้อย เพราะมันถือว่าเป็นการเติมสารเติมแต่งเพิ่มเข้าไป อีกทั้งการใช้แพลตินั่มที่มีราคาสูงในการสร้างมอเตอร์ขึ้นมา ในขั้นต่อไปคณะวิจัยกำลังวางแผนถึงการสร้างมอเตอร์จิ๋วสำหรับดักจับคาร์บอนที่ขับเคลื่อนโดยน้ำ  Kaufmann ได้กล่าวว่า “ถ้ามอเตอร์จิ๋ว(Micromoter)สามารถใช้สภาพแวดล้อมมาเป็นเชื้อเพลิง มอเตอร์เหล่านี้ก็จะสามารถขยายระดับการผลิตได้มากขึ้น รวมไปถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและราคาไม่สูงจนเกินไปอีกด้วย”

Cr.ข่าว Vcharkarn.com

ตำนานรักต่างวัย ซูซี่ หทัยเทพ และพระเอกสุดหล่อ ปิดฉากลงไปแล้ว หลังอยู่ด้วยกันมานาน 25 ปี

ซูซี่ หทัยเทพ


ตำนานรักต่างวัย ซูซี่ หทัยเทพ และพระเอกสุดหล่อ  ปิดฉากลงไปแล้ว หลังอยู่ด้วยกันมานาน 25 ปี 


เรื่องราวความรักดุจเทพนิยายของ ไฮโซรุ่นเดอะ ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา และ สามีรุ่นน้อง นักแสดงหนุ่มกล้ามล่ำบึ้ก ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล ที่อายุต่างกันกว่า 24 ปี เคยเป็นที่ฮือฮา และ อิจฉาของสาวๆทั่วประเทศ ด้วยความสวีตหวานและความรักที่เข้าอกเข้าใจในกันและกันของทั้งคู่ แต่ล่าสุด ตำนานรักต่างวัยครั้งนี้ก็ต้องปิดฉากลงไปแล้ว!! โดย คุณซูซี่ ได้ออกมาเปิดใจถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ รักล่ม!! ผ่านทาง รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย

ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา เป็นเซเลบริตี้ที่คร่ำหวอดในวงการแฟชั่น และวงการความงาม หรือเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะคุณแม่ของพระเอกกล้ามโต ดอน ธีระธาดา แต่ที่ทำให้ชื่อของซูซี่ หทัยเทพ เป็นที่รู้จักอย่างมาก และกลายเป็นข่าวดังนั่นก็คือ เรื่องราวความรักของเธอกับพระเอกสุดหล่อ คุณวิทย์ หรือ "ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล" หรือปู่โสมนั่นเอง ซึ่งทั้งคู่อายุห่างกันถึง 25 ปี และคบหาดูใจกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว

แม้ว่าอายุ ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา จะล่วงเลยเข้าสู่วัย 70 ปี แต่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไร ไฮโซสาวสองพันปีอย่างคุณ "คุณซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา" ได้เลย เธอยังคงสวย เซ็กซี่ สง่า จนทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ หลายๆ คน ต้องแอบอิจฉาในรูปร่าง และความงามของเธอเลยทีเดียว โดยในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอเผยความลับผิวหน้าอ่อนเยาว์ให้สาวๆได้รู้กันในรายการวู๊ดดี้ เกิดมาคุย และยังโชว์เสต็ปการตบหน้าให้ "วู้ดดี้" ที่เธอบอกว่าจะทำให้ใบหน้าเรียวกระชับขึ้นได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ซึ่งเธอได้ทุ่มเงินเพื่อไปเรียนมาถึง 20 ล้านบาท

นอกจากความสวยที่ไม่มีที่ติแล้ว สุภาพสตรีคนนี้ยังเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่ง ชนิดหาตัวจับยาก เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ แต่ธุรกิจที่เธอทำนั้นยิ่งใหญ่และไม่ธรรมดา เธอเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ที่ทำให้คนทั่วไปอิจฉามากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น เรื่องราวความรักต่างวัยของเธอกับ "คุณวิทย์ ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล" พระเอกสุดหล่อดีกรีนายแบบ ที่มีอายุน้อยกว่าถึง 25 ปี ซึ่งคอยดูแลอยู่ข้างกายเป็นเวลา 20 ปีแล้ว แต่จนถึงทุกวันนี้ทั้งคู่ก็ยังคงเติมความหวานให้กันอย่างสม่ำเสมอ ได้ฟังแล้วอาจทำให้คู่รักหลายคู่ ต้องอิจฉาเลยทีเดียว

สำหรับเรื่องราวความรักของ ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา นักธุรกิจสาววัยกว่า 70 กับสามีหนุ่มรุ่นน้อง ที่อายุห่างกันถึง 24 ปี และอยู่ด้วยกันมานาน 25 ปี โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจกับพิธีกรดัง "วู้ดดี้" เมื่อหลายปีก่อนทำเอาหลายคนออกอาการอิจฉาตาร้อน   แต่แล้ว ซูซี่ หทัยเทพ ธีระธาดา เผยว่า แยกทางกันมาเกือบปีแล้ว ส่วนอะไรคือสาเหตุที่ชีวิตรักของเธอจบลง แล้วทำไมจึงเพิ่งมาเปิดเผย และเธอสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในวันที่ขาด  "คนเคยรัก" ได้อย่างไร แล้วเธอจะพร้อมมีรักครั้งใหม่อีกหรือไม่

หลังแยกทางกับสามีมาเกือบปี ซึ่งทางคุณซูซี่ หทัยเทพ ได้มาเปิดบ้านและเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ชีวิตรักของเธอจบลง แล้วทำไมจึงเพิ่งมาเปิดเผย และเธอสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในวันที่ขาด "คนเคยรัก" ได้อย่างไร แล้วเธอจะพร้อมมีรักครั้งใหม่อีกหรือไม่ ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2559 ในรายการ WOODY (วู้ดดี้) ซึ่งจะออกอากาศบอกเล่าความจริง เป็นการมาพูดคุยกันแบบเดี่ยว ๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอออกมาบอกว่า รักต่างวัยที่ใคร ๆ อิจฉา จบลงแล้ว !!

Cr.ข่าว Teenee,Sanook