Monday, January 16, 2017

รื้อคดี ครูจอมทรัพย์ ผู้ตกเป็นแพะ ตำรวจยันทำถูกต้อง พร้อมสู้ในชั้นศาล

ครูจอมทรัพย์


รื้อคดี ครูจอมทรัพย์ ผู้ตกเป็นแพะ ตำรวจยันทำถูกต้อง พร้อมสู้ในชั้นศาล


จากกรณี นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี ครูจอมทรัพย์ ครูผู้ตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย อดีตข้าราชการครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎณ์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกจองจำในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ซึ่งเป็นคดีความที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อปี 2548 ศาลพิพากษาให้ติดคุกเมื่อปี 2556 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 ติดคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน และครูผู้ตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย จึงได้ร้องเรียนไปยังกระทรวงยุติธรรมในการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่เนื่องจากเธอยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดไม่เคยขับรถชนคนใครให้ถึงแก่ชีวิต

เกิดความสับสนในสังคม ระหว่างแพะกับแกะ หลังจากที่ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประมวลเหตุการณ์คดีครูจอมทรัพย์ การสอบปากคำพยาน ขณะนี้มีความเชื่อมั่นว่าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยความถูกต้อง การรวบรวมพยานหลักฐานนั้น พนักงานสอบสวนได้ตรวจสำนวนและสอบคำให้การเรื่องราวต่างๆ อย่างเป็นขั้นตอน และได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบจนเชื่อได้ว่าถูกต้อง จึงอยากให้ประชาชนได้เชื่อมั่นในกระบวนการสอบสวน

คดีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเกิดเหตุ เกิดความระแวง เราก็เข้าทำการตรวจสอบ ทำให้พบต่อไปว่าเหตุที่มีการทำต่อเนื่อง ที่การกระทำบางส่วนมีมูลความผิดเกิดขึ้น เพื่อให้ได้กลุ่มบุคคลมารับโทษต่อไป ส่วนสำนวนการสอบสวนในคดีจราจร ไม่พบความผิดตรงนี้ แต่ที่พบว่า ขบวนการต่างๆที่เกิดขณะหลังจากมีคำพิพากษา มีการกระทำบางส่วน น่าเชื่อว่ามีมูลความผิดอาญา การที่มีผู้อ้างว่าเป็นคนขับรถตัวจริงที่ออกมาอ้าง ขณะนี้กำลังติดตามหาตัวอยู่เพื่อนำไปสู่การสอบสวนข้อเท็จจริง ในส่วนของศาลที่อยู่ในขั้นการรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ คงก้าวล่วงไม่ได้ แต่ขณะนี้เรื่องราวที่เกิดอยู่นอกศาลนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าการดำเนินการของ พนักงานสอบสวนพิสูจน์หลักฐาน ได้ดำเนินการถูกต้อง ครบถ้วน แต่กลับพบเพิ่มเติมว่า มีขบวนการทำผิดกฎหมาย ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบ

นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ครูจอมทรัพย์ ผู้ตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย กล่าวอีกว่า ย้อนกลับไปในช่วงเหตุการณ์ที่ต้องถูกดำเนินคดี รู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่า อะไรถึงต้องทำให้ตนกลายเป็นผู้มีความผิด ทั้งที่ตนไม่เคยขับรถชนคนใคร ในรายละเอียดตำรวจระบุว่า พยานเห็นทะเบียน บค 56 แต่ไม่ทราบว่าเป็นทะเบียนจังหวัดไหน ตำรวจเลยสุ่มมาที่ขนส่งสกลนครว่ามีทะเบียนดังกล่าวหรือไม่ปรากฎว่ามี เป็น บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นรถของตน แต่สีรถที่ได้จากที่เกิดเหตุเป็นสีเขียว จึงไม่ตรงกับสีรถของตน ที่มีสีเขียวในรถก็มีแต่สีในตัวอักษรเป็นทะเบียนมีสีเขียว ครูผูตกเป็นแพะในคดีขับรถชนคนตาย จึงสงสัยว่าสีที่ได้จากจักรยานที่เกิดเหตุคือแผ่นป้ายทะเบียน จึงนำไปส่งกองตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เมื่อตรวจสอบแล้วโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจทะเบียนรถไม่มีรอยบุบรอยชน แผ่นป้ายทะเบียนยังอยู่สมบูรณ์ ยังไงก็ไม่ใช่ตน จึงขอเบิกพยานไปให้ปากคำคือสามีและลูกของตน แต่ได้รับคำตอบว่าฟังไม่ขึ้นเพราะเป็นบุคคลในครอบครัว

Cr.ประชาชาติธุรกิจ,ข่าวสด

No comments:

Post a Comment