Saturday, October 6, 2018

แอลอีดี(LED) รักษาเด็กตัวเหลือง

แอลอีดี(LED) รักษาเด็กตัวเหลือง


อย่ามองข้ามภาวะตัวเหลืองในเด็ก เพียงเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในทารกแรกคลอดทุกคน เพราะภัยร้ายที่ซ่อนอยู่คือความพิการทางสมอง หรืออันตรายต่อระบบภายในของตัวเด็กเอง แม้จะพบได้ไม่มาก แต่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น แต่ตอนนี้แพทย์ไทยก้าวหน้า วิจัย หลอดไฟแอลอีดี(LED) รักษาเด็กตัวเหลือง ได้สำเร็จ

เรื่องนี้ ศ.เกียรติคุณ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย อธิบายว่า ภาวะตัวเหลืองในเด็กแรกเกิด เป็นผลพวงตั้งแต่ที่อยู่ในครรภ์แล้วมีการนำเข้าออกซิเจนน้อย ที่จริงสามารถวัดออกซิเจนในเลือดของแม่ได้จากเครื่องวัดออกซิเจน(Pulse Oximeter) ก็ได้  เด็กเมือรับออกซิเจนจากแม่น้อยจึงต้องใช้เม็ดเลือดแดงเยอะ หลังจากคลอดแล้วการใช้เม็ดเลือดน้อยลงที่เคยมีอยู่เยอะ ๆ ก็จะแตกออก กลายเป็นน้ำดี ทำให้ตัวเหลืองตามมา 

โดยทั่วไปร่างกายเด็กจะสามารถขับน้ำดีออกได้เอง ถ้าขับไม่ทันแพทย์จะช่วยด้วยการเอาไฟมาส่อง หรือให้รับประทานน้ำ แต่บางรายที่มีการผิดปกติมาก ตัวเหลืองมาก เม็ดเลือดแตกง่ายกว่าธรรมดา หากถึงขั้นที่มีเลือดออกที่กล้ามเนื้อ ถือเป็นภาวะที่ค่อนข้างรุนแรง ต้องรักษาด้วยการถ่ายเลือด 

และ ถ้าเด็กที่เกิดมาไม่มีท่อน้ำดี หรือท่อน้ำดีมีปัญหา จะทำให้น้ำดีที่แตกออกไม่สามารถระบายออกทางตับได้ ทำให้ตัวเหลือง ตาเหลือง ต้องผ่าตัดต่อระบายน้ำดีออกทางลำไส้ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่องการติดเชื้อตามมา ถ้าไม่รีบทำก็จะทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ ลงท้ายด้วยการต้องเปลี่ยนตับตั้งแต่ยังแบเบาะ ซึ่งพบน้อย แต่พบได้ 

ถ้าน้ำดีสูงมาก ประมาณ 20 มิลลิกรัม จะสามารถซึมเข้าไปที่สมอง ให้สมองพิการ กลายเป็นเด็กปัญญาอ่อน แพทย์ต้องเร่งทำการถ่ายเลือด เอาน้ำดีออก ส่วนเด็กที่คลอดก่อนกำหนดมีความเสี่ยงมากกว่า แค่ค่าน้ำดีอยู่ในระดับประมาณ 15 มิลลิกรัมก็อาจจะอันตรายแล้ว ปัจจุบันหลังคลอดแพทย์จะทำการวัดค่าตัวเหลืองในเด็กทุกราย

 อีกด้านหนึ่ง นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ บอกว่า ในส่วนของการส่องไฟรักษาภาวะตัวเหลืองในเด็กนั้น ล่าสุด สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 3 จ.นครสวรรค์ พัฒนาเครื่อง “แอลอีดี โฟโตเธอราปี (LED Phototherapy)” ที่ใช้หลอดไฟแอลอีดี(LED)ชนิดแสงสีฟ้า มากระจายรังสีอินฟราเรดและรังสีอัลตราไวโอเลตไปที่ตัวทารกทั้ง 4 ด้าน 

คลื่นแสงจากหลอดไฟแอลอีดี(LED)ที่ส่งไปมีความยาวได้มากกว่าเดิม ใช้พลังงานต่ำ ตั้งเป็นหลอดไฟเปิดปิดอัตโนมัติ (Motion Sensor Light) เกิดความร้อนน้อย ย่นระยะเวลาการรักษา ลดระดับภาวะตัวเหลืองจนเกือบเป็นปกติใน 1 วัน เมื่อเทียบจากเครื่องแบบเก่าจะใช้เวลา 3 วัน นับเป็นเครื่องแรกของประเทศ  

ที่สำคัญคือ หลอดไฟแอลอีดี(LED)ชนิดแสงสีฟ้าปลอดภัยต่อผิวหนังของทารก สามารถปรับความเข้มของแสงได้ 5 ระดับ ทนต่อการสั่นสะเทือน มีเครื่องนับเวลาการใช้งาน เหมือนเป็นไฟอัตโนมัติ (Motion Sensor Light)  สะดวกในการบำรุงรักษาเครื่อง โดยได้ ติดตั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย (กล้อง IP Camera) ไว้ที่เครื่องส่องไฟแอลอีดี(LED) แล้วเชื่อมต่อมาที่จอมอนิเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามอาการเด็กได้ตลอดเวลา 

จากการทดสอบเทียบที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ พบว่าคลื่นแสงจากหลอดไฟแอลอีดี(LED)ที่ส่งออกมามีความเหมาะสมสำหรับการรักษา และปลอดภัยต่อผิวหนังของเด็ก เมื่อเทียบจากหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบเดิม ที่ส่งผลให้ผิวหนังของทารกเกิดการตก นับเป็นเครื่องฯ ต้นแบบของประเทศไทย  นพ.ธงชัย กล่าวในตอนท้าย.

Cr.ข่าวเดลินิวส์

Tuesday, August 7, 2018

แอพใหม่ Wongnai POS สำหรับ ร้านอาหาร ออนไลน์

แอพใหม่ Wongnai POS สำหรับ ร้านอาหาร ออนไลน์

แอพใหม่ Wongnai POS สำหรับ ร้านอาหาร ออนไลน์


Wongnai บริการรวมข้อมูลและรีวิวร้านอาหาร เปิดตัวบริการใหม่ระบบการจัดการร้านอาหารแบบครบวงจร สำหรับคนที่อยากเริ่มทำร้านอาหารหรือคนที่ทำร้านอาหารอยู่แล้วแต่อยากได้ระบบที่จะทำให้จัดการดูแลร้านอาหารได้ดีขึ้น มีแอพพลิเคชั่นเด็ดมาให้ใช้งานเพียบแบบที่ปกติต้องจ่ายปีละเป็นหมื่น แต่นี่ Wongnai เอามาให้ใช้กันฟรีๆไปเลย กับแอพพลิเคชั่นใหม่ Wongnai POS

แอพใหม่ จาก Food Story
แอพใหม่ Wongnai POS นี้ทาง Wongnai ได้ร่วมมือกับทีม Food Story ที่ทำแอปพลิเคชันระบบจัดการร้านอาหารอยู่แล้ว ที่ทำแอปด้านนี้ให้เหล่าร้านดังมาช่วยทำระบบให้ มีประสบการณ์ทำให้เชนร้านอาหารชื่อดังมากมาย เช่น Central Food Hall มาเป็นเบื้องหลังให้ ทำให้มั่นใจถึงประสิทธิถาพของแอพพลิเคชั่นได้ โดยทางทีม Wongnai ได้เข้าไปร่วมทุนอัดฉีดทีม Food Story ด้วยเงินถึง 1 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 33 ล้านบาทเลยทีเดียว

เครื่องอ่าน QR Code กับ แอพใหม่
แอพพลิเคชั่น Wongnai POS เป็นระบบการจัดการร้านอาหารออนไลน์ครบวงจรที่ใช้งานง่ายและฟรี แค่มี iPad เครื่องเดียวก็สามารถโหลดลงมาลงทะเบียนแล้วใช้ได้เลย มีหน้าจอและฟีเจอร์จำเป็นในการทำร้านอาหารครบครันทั้งรับออเดอร์ เก็บเงิน สรุบยอดบัญชี และสามารถต่อกับเครื่องปริ้นท์ใบเสร็จ, ลิ้นชักเก็บเงินและ เครื่องอ่าน QR Code เพื่อชำระเงินออนไลน์ได้ทันที เงินเข้าระบบธนาคารหักเงินนำส่งร้านค้าในเวลาถัดมา

อัพเดตโปรโมชั่น ร้านอาหาร ออนไลน์
โดย Wongnai ดังเดิมเป็นบริการค้นหาร้านอาหารและรีวิวร้านอาหารผ่านทั้งทางเว็บ Wongnai และ แอพพลิเคชั่น Wongnai บน iOS และ Android ที่มีผู้ใช้งานอยู่มากถึง 8 ล้านคน ซึ่งร้านค้าที่เปลี่ยนมาใช้งานแอพใหม่ Wongnai POS จะเชื่อมต่อร้านอาหารของเราเข้าไปในลิสต์ของ Wongnai และเข้าไปปรับเปลี่ยนข้อมูลหรืออัพเดตโปรโมชั่นต่างๆของร้านเราใน Wongnai ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการการปรับเมนู, เวลาเปิด-ปิด และโปรโมชั่น ได้บนออนไลน์ เปลี่ยนทีเดียวได้ทั้งเว็บและแอปบนมือ

บริการสั่งอาหาร ออนไลน์ ส่งถึงที่
นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการขายให้ร้านค้าแบบง่ายๆไม่ต้องเปิดสาขาเพิ่ม ด้วยการรองรับระบบรับออเดอร์ผ่าน LINE MAN บริการสั่งอาหารส่งถึงที่ ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ณ ปัจจุบันมีลูกค้าผู้สั่งซื้อมากกว่า 6 หมื่นครั้งต่อสัปดาห์และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก โดยจะรับออเดอร์จากลูกค้าโดยตรงไม่ต้องรอเมสเซนเจอร์มาถึงร้านก่อนผ่านระบบ Food Delivery Notification ในแอปพลิเคชัน Wongnai POS เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านอาหาร

ชำระเงินค่าอาหารผ่าน QR Code
และแอปพลิเคชัน Wongnai POS ที่น่าสนใจคือระบบจ่ายเงินค่าอาหารผ่าน QR Code จาก SCB Easy เพียงแค่สแกนผ่าน เครื่องอ่าน QR Code ก็จ่ายเงินได้เลย โดยฟีเจอร์นี้เชื่อมเข้ากับ เครื่องอ่านคิวอาร์โค้ด กับระบบเก็บเงินของร้านค้าทำให้นับยอดได้เลยและมีระบุค่าอาหารไว้ชัดเจนไม่ต้องกลัวจ่ายเงินผิดหรือทอนเงินผิด เพิ่มความสะดวกให้กับทั้งร้านอาหารและลูกค้าสำหรับร้านค้าที่มีระบบเดิมอยู่แล้ว และใช้งานเพียงแค่เก็บเงินเท่านั้น เป็นเรื่องน่าเอาไปคิดนะว่าจะเปลี่ยนมาใช้แอพใหม่ Wongnai POS แทนดีหรือไม่

แอพใหม่ Wongnai POS โหลดฟรี
เพราะแอปพลิเคชัน Wongnai POS มันฉลาดขึ้นกว่าเดิมมาก และระบบเดิมเราก็ไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาใช้งานได้เท่าไหร่นัก ร้านอาหารเปลี่ยนมาใช้แอพใหม่ Wongnai POS มันช่วยให้เราสามารถสรุปการดำเนินการ ดูรายงานยอดตัดเงินออนไลน์เข้าบัญชีร้านค้าได้ทันทีแบบเรียลไทม์ รวมถึงตรวจสอบยอดขาย และอื่นๆผ่านเน็ตได้เลยอีกต่างหาก การทิ้งของเก่าหันมาใช้ของใหม่ แค่เสียเวลาติดตั้งลงข้อมูลเมนูนิดหน่อยติดตั้ง เครื่องอ่านคิวอาร์โค้ด ก็ใช้งานได้เลย ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมโหลดฟรี ก็อาจจะคุ้มค่าดีนะ

Cr.Droidsans

Friday, February 16, 2018

เครื่องมือวัดแสง ห้องเรียน

เครื่องมือวัดแสง ห้องเรียน


ห้องเรียนของโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตเมืองใหญ่ปัจจุบันส่วนมากเป็นห้องปรับอากาศโดยการปรับปรุงอาคารเรียนที่ออกแบบตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งไม่ได้ออกแบบไว้ให้เป็นห้องเรียนปรับอากาศ เมื่อมีการปรับปรุงห้องเรียนให้สามารถติดเครื่องปรับอากาศได้ ก็มีความจำเป็นต้องกั้นห้องปิดหน้าต่าง ปิดประตูเพื่อปิดกั้นความร้อนจากภายนอก และใส่หลอดไฟเพื่อให้มีแสงสว่างแทนแสงจากธรรมชาติ และนอกจากนั้นถ้ามีการจัดการเรียนการสอนในเวลาค่ำที่ไม่มีแสงสว่างจากธรรมชาติหรือแสงแดด ไฟส่องสว่างในห้องเรียนจึงเป็นความจำเป็นเพื่อให้เกิดความสบายตาแก่นักเรียนและครูอาจารย์

ความเข้มแสง ที่เหมาะสม แต่ละห้องเรียน
ความสว่างที่เหมาะสมตามมาตรฐาน CIE (International Commission on Illumination) นั้น กำหนดให้ห้องทำงาน สำนักงาน ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องเรียน มีความเข้มแสง 500 ลักซ์ วัดความเข้มแสงได้จาก เครื่องมือวัดแสง ส่วนห้องฝึกงานหรือห้องทำงานเขียนแบบ งานละเอียด 750 ลักซ์ งานชิ้นส่วนเล็ก 1,000 ลักซ์ งานชิ้นส่วนเล็กมาก งานเครื่องมือวัด 1,500 ลักซ์ และงานผ่าตัด 2,000 ลักซ์ เป็นต้น

ปรับความเข้มแสง ห้องคอมพิวเตอร์
สิ่งที่ต้องระวังในเรื่องการให้แสงสว่างในห้องหรือบริเวณที่มีจอคอมพิวเตอร์ ก็คือ ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดแสงสะท้อนขึ้นในจอคอมพิวเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปก็คือ ถ้าติดตั้งหรือให้การส่องสว่างที่ไม่ถูกต้องบางครั้งก็มีแสงสะท้อนให้เห็นรูปโคมในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อ่านข้อความในจอได้ลำบาก วิธีการแก้ไขไม่ให้เกิดแสงดังกล่าวสามารถทำได้หลายอย่างอาทิ เช่น ในห้องที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ควรให้แสงสว่างทั้งแบบโดยตรงและโดยอ้อม ส่วนการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ควรให้ทิศทางการมองเครื่องขนานกับกำแพงหรือไม่ควรวางเครื่องคอมพิวเตอร์ใกล้หน้าต่าง และโคมไฟแสงสว่างไม่ควรวางเหนือเครื่องคอมพิวเตอร์

เพิ่ม ความเข้มแสง ด้วยเหลอดไฟ
เมื่อมีการใส่หลอดไฟและปรับอากาศห้องเรียนอาจทำให้แสงสว่างในห้องเรียนไม่เพียงพอ หรืออาจมีแสงสว่างเกินกว่าที่ควรจะเป็น การดูแลให้ห้องเรียนมีแสงสว่างพอดีกับการเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญซึ่งสามารถคำนวนค่าความเข้มแสงได้จาก เครื่องมือวัดแสงเพื่อช่วยลดปัจจัยสำคัญสำหรับปัญหาทางการมองเห็น ความสบายตาหรือสุขภาพตาของนักเรียนอย่างมาก มีนักเรียนจำนวนหนึ่งต้องใส่แว่นสายตาเพราะห้องเรียนมีแสงสว่างไม่พอหรือแสงสว่างมากเกินไป แล้วมักจะถูกละเลยจากผู้รับผิดชอบสถานศึกษา ที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญความสว่างที่เพียงพอต่อความสบายตาของนักเรียนและครูอาจารย์ในห้องเรียน

แสงสว่างเพียงพอ ถนอมสายตา นักเรียน
การที่นักเรียนต้องเรียนอยู่ในห้องเรียนที่แสงสว่างไม่เพียงพอที่สายตาจะต้องปรับการมองเห็น เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันและ 5 วันต่อสัปดาห์ส่งผลต่อสุขภาพสายตาของนักเรียนอย่างมาก จากการสังเกตพบว่า นักเรียนโรงเรียนในเมืองใหญ่มีจำนวนนักเรียนใส่แว่นสายตามากกว่านักเรียนในต่างจังหวัดที่ห้องเรียนใช้แสงธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมอยู่ด้วย เช่น แฟชั่น การตระหนักในการดูแลสุขภาพ และฐานะทางเศรษฐกิจของนักเรียนในเมืองใหญ่เป็นตัวแปรร่วมด้วย

ลดความเมื่อยล้า สายตา ครูอาจารย์และนักเรียน
ส่วนปัญหาสายตาที่เกิดจากการจัดสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนและความเข้มแสงไม่เหมาะสมเกิดความเมื่อยล้าสายตานั้นสามารถแก้ไขได้โดยให้มีการตรวจวัดความสว่างในห้องเรียน ปรับเปลี่ยนหลอดไฟให้แสงสว่างเหมาะสมของแต่ละห้องที่ใช้งานต่างกัน เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และห้องทำงานเฉพาะทาง การเพิ่มลดแสงสว่างโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางสุขภาพสายตาเกิดความเมื่อยล้าสายตาเป็นเวลานาน ๆ ที่เกิดขึ้นแก่นักเรียนและครูอาจารย์นั้นควรมีการทบทวนเพื่อหาความเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมากด้วยการวัดค่าความสว่างมาตรฐานตามความเหมาะสมของแต่ละห้องที่ใช้งานจริง สามารถช่วยลดความเมื่อยล้าสายตาและลดการตัดแว่นสายตาสำหรับครูอาจารย์และนักเรียน อีกทั้งสบายตา สบายใจและมีความสุขกับการเรียนการสอน

Cr.ไทยรัฐ,โมเม บล็อค

เครื่องมือวัดแสง ใน ห้องทำงาน

เครื่องมือวัดแสง ใน ห้องทำงาน


การมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวของเราถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกิจกรรมประจำวันตั้งแต่ตื่นเช้า การดำเนินกิจกรรม ส่วนตัว ทำอาหารในห้องครัว การเดินทาง การทำงาน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ และอีกมากมายที่ต้องใช้สายตามองเพื่อให้เกิดประโยชน์ กับการดำเนินชีวิต การมองเห็นอย่างชัดเจนถูกต้อง และเกิดความสบายตา ควรมีการจัดแสงสว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการดำเนินกิจกรรมของตน โดยแสงสว่างต้องมีปริมาณความเข้มข้นแสง ที่เหมาะสม มีคุณภาพสำหรับการมองเห็นที่ดี

ความเข้มแสง & การอ่านเอกสาร
แสงสว่างที่เหมาะต่อการอ่านเอกสารในห้องทำงาน ตามหลักวิชาการจะเรียกว่าดูความเข้มแสงที่เพียงพอต่อการอ่าน โดยจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) วัดปริมาณแสง ในหน่วย Lux (ลักซ์) ซึ่งจะวัดความเข้มแสงออกมาเป็นตัวเลข โดยความเข้มแสงที่เหมาะกับการทำงาน เช่น อ่านเอกสารในห้องทำงานจะอยู่ที่ 300-500 Lux (ลักซ์) ดังนั้น เวลาอ่านหนังสือในแสงสว่างปกติ ที่ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไปจะดีที่สุด อาจจะอยู่ในร่มที่ไม่มีแดดส่องมาโดน หรืออ่านเอกสารในห้องทำงานตอนกลางคืน อาจจะต้องเปิดโคมไฟส่องเวลาอ่านหนังสือ

ความเข้มแสง & การมองเห็น
การจัดการความเข้มของแสงสว่างที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน แสงสว่างที่น้อยหรือมาก เกินไป หรือ แสงจ้า ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป เกิดความเมื่อยล้า กล้ามเนื้อหนังตากระตุก ปวดตา มึนศีรษะ นอนไม่หลับ ความสามารถในการมองเสื่อมลงเป็นผลให้เกิด อุบัติเหตุในการทำงาน การมองเห็นอย่างชัดเจนถูกต้อง และเกิดความสบายตา ควรมีการจัดแสงสว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการทำงานของพนักงาน โดยแสงสว่างต้องมีปริมาณความเข้มข้นแสงที่เหมาะสมเพียงพอและมีคุณภาพสำหรับการมองเห็นทีดี ที่เราสามารถวัดความเข้มแสงที่เหมาะสม ด้วย เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter)

ความเข้มแสงที่เหมาะสม ห้องทำงาน 
-ห้องสุขา 100 ลักซ์
-ห้องประชุม 300 ลักซ์
-โรงอาหาร 200 ลักซ์
-ห้องคอมพิวเตอร์ 400 ลักซ์
-ห้องเก็บของ 50-200 ลักซ์
- ห้องพักฟื้น 50 ลักซ์
- ห้องตรวจรักษา 400 ลักซ์
- ห้องถ่ายเอกสาร 300 ลักซ์
- ห้องนิรภัย 100 ลักซ์
- ห้องจองตั๋วหรือห้องขายตั๋ว 400 ลักซ์

เพิ่มความเข้มแสง ด้วย หลอดไฟ
แสงสว่างนั้นมีผลกระทบต่อพนักงาน กรณี แสงสว่างน้อยเกินไป จะมีผลเสียต่อนัยน์ตา ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของนัยน์ตาที่ต้องเพ่งชิ้นงาน ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะ มึนศรีษะได้ และในกรณีความเข้มแสงมากเกินไป จะทำให้พนักงานเกิดความไม่สบาย เมื่อยล้า ปวดตา กล้ามเนื้อตากระตุก ซึ่งทั้งแสงสว่างมากไปน้อยไป จะทำให้เกิดผลเสียทางสายตาแล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุในการทำงานขึ้นได้ด้วย แสงธรรมชาติเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงควรตรวจสอบความเพียงพอของระบบไฟส่องสว่างในพื้นที่สำนักงาน ด้วย เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) ถ้าไม่เพียงพออาจจำเป็นต้องเพิ่มความสว่างในห้องทำงานด้วยการติดหลอดไฟส่องสว่างเพิ่ม

Cr.วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ

เครื่องมือวัดแสง ที่ทํางาน

เครื่องมือวัดแสง ที่ทํางาน



เนื่องจากที่ทำงานด้านเอกสารจะต้องใช้สายตาอย่างมาก เมื่อมีความเข้มของการส่องสว่างที่ไม่เพียงพอจะทำให้สายตาต้องปรับขยายรูม่านตาเพื่อเปิดรับแสงให้เข้ามามากขึ้น กล้ามเนื้อรอบดวงตาก็จะต้องทำงานหนัก ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของสายตา เพราะการที่ต้องทำงานโดยใช้สายตาเป็นเวลานานก็มีผลต่อสุขภาพสายตาอยู่แล้ว หากมีปัจจัยอื่น เช่น แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การทำงานที่ต้องใช้สายตาในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ยังจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไม่มีสมาธิในที่ทํางาน เกิดความเครียดในการทำงาน เป็นต้น

ลักซ์ ( Lux) ความเข้มแสง
ดังนั้นเราควรวัดความเข้มแสงซึ่งมีหน่วยเป็น ลักซ์ ( Lux) ที่จำเป็นเพื่อให้เหมาะสมกับที่ทํางานของคุณอย่างเห็นได้ชัดขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่กำลังทำ ความเข้มแสง (ลักซ์ ( Lux)) วัดได้ด้วย เครื่องมือวัดแสง ที่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่าง ระบบแสงสว่างที่ดี ต้องให้แสงที่พอเหมาะสมกับชนิดของงานที่ทำ และมีความสมํ่าเสมอของแสงสว่าง ไม่ใช่บางจุดก็มืด บางจุดก็สว่างจ้า นอกจากนี้เพดาน ผนัง และพื้นก็ต้องช่วยลดความจ้าของแสงด้วย เพราะแสงที่จัดจ้าจนเกินไป ไม่ว่าจะมาจากโคมไฟโดยตรง หรือเกิดจากการสะท้อนแสง ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายกับดวงตาอันบอบบางของเราทั้งสิ้น ปกติแล้ว งานแต่ละชนิดจะมีความจำเป็นในการใช้แสงสว่างที่แตกต่างกันออกไป

เครื่องมือวัดแสง ในที่ทำงาน
การใช้เครื่องมือวัดความเข้มแสงในบริเวณนั้นๆ เพื่อตรวจสอบแสงสว่างภายในอาคาร บริเวณสถานที่ทำงาน เช่น สายงานการผลิตในโรงงาน หรือ ห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล ซึ่งต้องให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะสมและมีความปลอดภัยต่อสายตาพนักงาน การวัดความเข้มแสงและปริมาณแสงจึงควรมีอุปกรณ์วัดความเข้มแสง หรือที่เรียกว่า เครื่องวัดแสง (Lux Meter) เป็นอุปกรณ์สำหรับวัดความสว่างเฉพาะความเข้มที่ปรากฏในสายตาของมนุษย์ อาทิ เช่น ถ้าเป็นงานพิมพ์เอกสาร การเขียน การอ่าน จะต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่า 400 ลักซ์ และสำหรับห้องคอมพิวเตอร์ งานบันทึกข้อมูลและบริเวณที่แสดงผลข้อมูล (จอคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์) จะต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่า 600 ลักซ์ ถ้ามีความสว่างไม่เพียงพอ จะเกิดความรู้สึกตาพร่า เวียนศีรษะ บางรายมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ทำให้ไม่มีสมาธิในที่ทํางาน

ความเข้มแสง ที่เหมาะสม ในที่ทำงาน
- ขนย้าย บรรจุ บด เกลี่ยวัตถุ ความเข้มแสงไม่ควรน้อยกว่า 50 ลักซ์
- การผลิตหรือประกอบชิ้นงานหยาบ ๆ การสีข้าว ความเข้มแสงในบริเวณนั้นไม่ควรน้อยกว่า 100 ลักซ์
- เย็บผ้า ควรมีแสงสว่างบริเวณนั้นไม่น้อยกว่า 200 ลักซ์
- สถานที่ทำงานที่ต้องการความละเอียดเป็นพิเศษ เช่น เจียรนัยเพชรพลอย ควรมีความเข้มแสงอย่างน้อย 1000 ลักซ์
- ถนน ทางเดิน เฉลียง ควรมีความเข้มแสง ไม่น้อยกว่า 50 ลักซ์ เป็นต้น

ความเข้มแสง ห้องสัมมนา ห้องเรียน
นอกจากนี้ห้องเรียน ห้องสัมมนาก็เช่นกัน การทำงานเอกสารที่มีความสว่างน้อยเกินไปก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสายตาได้เนื่องจากจะต้องเพ่งสายตาเป็นเวลานาน เช่นการอ่านหนังสือ การเขียนหนังสือในที่ที่มีแสงน้อยๆ จะทำกล้ามเนื้อตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงต้องอ่านหนังสือและเขียนหนังสือในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ เช่นมีการกำหนดความสว่างสำหรับห้องเรียน ห้องสัมมนาไว้ 300-700 Lux เป็นต้น ความสว่างที่เหมาะสมในสถานที่ต่างๆ จึงมีความสำคัญมากต่อการทำงาน เป็นการถนอมสายตาแก่พนักงาน จึงควรวัดความเข้มแสงด้วย เครื่องมือวัดแสง เพื่อกำหนดความสว่างที่เหมาะสมไว้ จะต้องให้แสงสว่างเพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าที่ทํางานและการอบรมที่ต้องใช้สายตากับเอกสารเหมาะสมและสบายแก่สายตา ที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพสายตาของพนักงาน

Cr.EUafp,Stou

Thursday, January 19, 2017

ติดตาม ซากอุกกาบาตตก และ ตามเก็บขยะอวกาศนอกโลก

ไมโครมิเตอร์ (Micrometer)


ติดตาม ซากอุกกาบาตตก และ ตามเก็บขยะอวกาศนอกโลก


โดยทั่วไปเวลาอุกกาบาตตก ส่วนใหญ่จะไม่มีใครเห็น แต่บางครั้งเราจะเห็นลูกไฟดวงใหญ่พุ่งผ่านท้องฟ้าไป ดังเมื่อวันที่ 7 กันยายน และ 2 พฤศจิกายน ปีกลายนี้ที่เหนือท้องฟ้าจังหวัดกาญจนบุรี มีคนเห็นลูกไฟ และถ่ายภาพเหตุการณ์ได้หลายคน แต่ไม่มีใครพบซากอุกกาบาตดังกล่าว เพราะเรายังไม่มีเทคโนโลยีการตรวจดูและคำนวณหาตำแหน่งที่มันตก เมื่อปี 2014 ได้มีการประชุมของสมาคมอุกกาบาต Meteoritical Society ที่เมือง Casablanca ใน Morocco เพื่ออภิปรายเทคนิคการค้นหาตำแหน่งที่อุกกาบาตตก (ไม่ว่าอุกกาบาตจะมีขนาดใหญ่เพียงใด) ทุกประเทศจะต้องมีเครือข่ายของกล้องถ่ายภาพอัตโนมัติที่จะติดตามถ่ายภาพ รวมถึงเส้นทางที่อุกกาบาตพุ่งไป พร้อมกันจำนวนหลายกล้อง เพื่อให้รู้ตำแหน่งที่แน่นอนใน 3 มิติ และต้องใช้เรดาร์รายงานข้อมูลของสภาพดินฟ้าอากาศขณะอุกกาบาตตก ซึ่งหมายถึงรู้ทิศ และความเร็วของกระแสลมในบริเวณนั้นด้วย การหาตำแหน่งอุกกาบาตตกจึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บรรดาดาวเคราะห์น้อยจำนวนหลายแสนดวงที่โคจรอยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี และเวลาดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ถูกรบกวนโดยแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีหรือดาวเสาร์ มันอาจเปลี่ยนวิธีโคจรให้พุ่งต่อไปในทิศสู่โลก ดาวอังคาร ดาวหางหรือดวงจันทร์ แต่เวลาชิ้นเหล่านี้เดินทางถึงโลกซึ่งมีบรรยากาศที่หนาทึบห่อหุ้ม การเสียดสีกับบรรยากาศทำให้สะเก็ดหินจากดาวนอกโลกร้อนและลุกไหม้เป็นดวงไฟพุ่งผ่านท้องฟ้าไปด้วยความเร็วสูง นักดาราศาสตร์รู้ว่านั้นคือแหล่งกำเนิดที่สำคัญของอุกกาบาต

ถ้าสะเก็ดอุกกาบาตเหล่านั้นมีขนาดใหญ่ และการลุกไหม้จะไม่สิ้นสุด มันก็จะตกชนโลกอย่างรุนแรง เรียกอุกกาบาต ส่วนที่ลุกไหม้ไปจะกลายเป็นละอองดาวที่อาจตกบนก้อนน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกา หรือในดินโคลนใต้ทะเลและมหาสมุทร นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่า ทุก 1,300 ปี จะมีอุกกาบาตขนาดกลางตกบนโลก ซึ่งจะทำให้เกิดหลุมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 1.5 กิโลเมตร และทุก 100 ล้านปี จะมีหลุมที่เกิดจากอุกกาบาตขนาดใหญ่ตก โดยที่ปากหลุมจะกว้างตั้งแต่ 50-100 กิโลเมตร
     
สำหรับบริเวณที่อุกกาบาตชอบตกนั้นก็ได้มีการพบว่า จำนวนอุกกาบาตที่ตกบริเวณเส้นศูนย์สูตรมีมากเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนที่ตกแถบขั้วโลก และมันมักจะตกในเวลาบ่าย หรือเย็น บ่อยยิ่งกว่าในเวลาเช้า และตกด้วยความเร็วประมาณ 11 กิโลเมตร/วินาที (อุกกาบาตที่มาจากนอกระบบสุริยะจะมีความเร็วสูงกว่านี้) โดยทุกปีโลกจะถูกอุกกาบาตจำนวนประมาณ 30,000 ลูกพุ่งชน ผลก็คือ โลกมีมวลเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 11,000 ตัน แต่เมื่อโลกมีมวล 6x1021 ตัน ดังนั้น มวลที่เพิ่มจึงคิดเป็น 2x10-16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง

ส่วนขยะอวกาศนั้น NASA ได้พบในปี 2015 ว่ามีประมาณ 500,000 ชิ้นส่วน ซึ่งอาจเป็นดาวเทียมที่หมดสภาพทำงาน หรือชิ้นส่วนที่เกิดจากการระเบิดของจรวดส่งดาวเทียม หรือถังเชื้อเพลิงของจรวดที่ใช้งานแล้ว หรือชิ้นส่วนขนาดเล็กที่เกิดจากชิ้นส่วนขนาดใหญ่ชนกัน โดยทุกชิ้นส่วนมีขนาดและความเร็วต่างๆ กัน คือเล็กตั้งแต่ระดับ 100 ไมครอน (0.1 มิลลิเมตร)ขึ้นไป สามารถเทียบได้อย่างนี้ 1,000 ไมครอนหรือไมโครเมตร เทียบเท่า  1 มิลลิเมตร โดยต้องใช้เครื่องมือวัดที่เรียกว่า ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) วัดชิ้นงานได้ละเอียดถึงระดับไมครอน แต่ถ้าขยะอวกาศมีความเร็ว 5 เมตร/วินาที ก็สามารถทะลวงชุดที่มนุษย์อวกาศสวมอยู่ได้ ส่วนขยะที่มีขนาด 0.5 มิลลิเมตร

ถ้าขยะอวกาศเล็กตั้งแต่ระดับ 100 ไมครอน (0.1 มิลลิเมตร)ขึ้นไป เทียบขนาด 1 มิลลิเมตร = 1,000 ไมครอน ที่สามารถวัดได้จากเครื่องมือวัด ไมโครมิเตอร์ (Micrometer) วัดชิ้นงานได้ละเอียดถึงระดับไมครอน มีความเร็วเดียวกันก็สามารถทำอันตรายต่อกระจกหน้าต่างของยานอวกาศได้เช่นกัน ด้านขยะที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตรก็มีสิทธิ์ทำให้สถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) มีอันเป็นไปได้ ผลงานการสร้างขยะเหล่านี้เป็นขององค์การรัฐบาล แต่เอกชนหลายหน่วยซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ NASA ก็มีความสามารถจะติดตามดู เฉพาะขยะที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 เซนติเมตรเท่านั้น จึงทำให้ “เห็น” ขยะเพียง 23,000 ชิ้นเท่านั้นเอง คือ น้อยกว่า 5% ของขยะที่มี และอีก 95% ไม่มีใครดู

Cr.ผู้จัดการ

Wednesday, January 18, 2017

วันกองทัพไทย ที่อนุสรณ์สถาน ผบ.เหล่าทัพ ร่วมวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณบรรพชนไทย

วันกองทัพไทย


วันกองทัพไทย ที่อนุสรณ์สถาน ผบ.เหล่าทัพ ร่วมวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณบรรพชนไทย


เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2560 การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรมหากษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทย ที่สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกตกทอดมาจนทุกวันนี้ โดยกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย กิจกรรมในช่วงเช้า ได้แก่ พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ กองบัญชาการกองทัพไทย พิธีบวงสรวงพระบรมรูปมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นมหาราช 9 พระองค์ พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 พิธีวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย และพิธีบำเพ็ญกุศล ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

โดยกิจกรรมในวันนี้ ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พล.อ. สุรพงษ์  สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในการจัดงานวันกองทัพไทย ประจำปี 2560 โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีฯ นอกจากนี้ กองทัพไทย ขอเชิญชมการถ่ายทอดสารคดีพิเศษ เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2560 ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เวลา 20.20น. หรือหลังข่าวภาคค่ำ

กิจกรรมในช่วงบ่าย เนื่องในวันกองทัพไทย ได้แก่ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหารในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย ณ กองพันทหารสื่อสาร กองทัพบก ณ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ กองทัพเรือ ณ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และกองทัพอากาศ ณ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช รวมถึงการเยี่ยมเยียนและมอบของขวัญ เพื่อแสดงความห่วงใย รำลึกถึงความเสียสละของทหาร ตำรวจ และพลเรือนอาสาสมัคร ซึ่งได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า

Cr.โพสต์ทูเดย์