เครื่องมือวัดแสง ห้องเรียน
ห้องเรียนของโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตเมืองใหญ่ปัจจุบันส่วนมากเป็นห้องปรับอากาศโดยการปรับปรุงอาคารเรียนที่ออกแบบตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งไม่ได้ออกแบบไว้ให้เป็นห้องเรียนปรับอากาศ เมื่อมีการปรับปรุงห้องเรียนให้สามารถติดเครื่องปรับอากาศได้ ก็มีความจำเป็นต้องกั้นห้องปิดหน้าต่าง ปิดประตูเพื่อปิดกั้นความร้อนจากภายนอก และใส่หลอดไฟเพื่อให้มีแสงสว่างแทนแสงจากธรรมชาติ และนอกจากนั้นถ้ามีการจัดการเรียนการสอนในเวลาค่ำที่ไม่มีแสงสว่างจากธรรมชาติหรือแสงแดด ไฟส่องสว่างในห้องเรียนจึงเป็นความจำเป็นเพื่อให้เกิดความสบายตาแก่นักเรียนและครูอาจารย์
ความเข้มแสง ที่เหมาะสม แต่ละห้องเรียน
ความสว่างที่เหมาะสมตามมาตรฐาน CIE (International Commission on Illumination) นั้น กำหนดให้ห้องทำงาน สำนักงาน ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องเรียน มีความเข้มแสง 500 ลักซ์ วัดความเข้มแสงได้จาก เครื่องมือวัดแสง ส่วนห้องฝึกงานหรือห้องทำงานเขียนแบบ งานละเอียด 750 ลักซ์ งานชิ้นส่วนเล็ก 1,000 ลักซ์ งานชิ้นส่วนเล็กมาก งานเครื่องมือวัด 1,500 ลักซ์ และงานผ่าตัด 2,000 ลักซ์ เป็นต้น
ปรับความเข้มแสง ห้องคอมพิวเตอร์
สิ่งที่ต้องระวังในเรื่องการให้แสงสว่างในห้องหรือบริเวณที่มีจอคอมพิวเตอร์ ก็คือ ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดแสงสะท้อนขึ้นในจอคอมพิวเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปก็คือ ถ้าติดตั้งหรือให้การส่องสว่างที่ไม่ถูกต้องบางครั้งก็มีแสงสะท้อนให้เห็นรูปโคมในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อ่านข้อความในจอได้ลำบาก วิธีการแก้ไขไม่ให้เกิดแสงดังกล่าวสามารถทำได้หลายอย่างอาทิ เช่น ในห้องที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ควรให้แสงสว่างทั้งแบบโดยตรงและโดยอ้อม ส่วนการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ควรให้ทิศทางการมองเครื่องขนานกับกำแพงหรือไม่ควรวางเครื่องคอมพิวเตอร์ใกล้หน้าต่าง และโคมไฟแสงสว่างไม่ควรวางเหนือเครื่องคอมพิวเตอร์
เพิ่ม ความเข้มแสง ด้วยเหลอดไฟ
เมื่อมีการใส่หลอดไฟและปรับอากาศห้องเรียนอาจทำให้แสงสว่างในห้องเรียนไม่เพียงพอ หรืออาจมีแสงสว่างเกินกว่าที่ควรจะเป็น การดูแลให้ห้องเรียนมีแสงสว่างพอดีกับการเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญซึ่งสามารถคำนวนค่าความเข้มแสงได้จาก เครื่องมือวัดแสงเพื่อช่วยลดปัจจัยสำคัญสำหรับปัญหาทางการมองเห็น ความสบายตาหรือสุขภาพตาของนักเรียนอย่างมาก มีนักเรียนจำนวนหนึ่งต้องใส่แว่นสายตาเพราะห้องเรียนมีแสงสว่างไม่พอหรือแสงสว่างมากเกินไป แล้วมักจะถูกละเลยจากผู้รับผิดชอบสถานศึกษา ที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญความสว่างที่เพียงพอต่อความสบายตาของนักเรียนและครูอาจารย์ในห้องเรียน
แสงสว่างเพียงพอ ถนอมสายตา นักเรียน
การที่นักเรียนต้องเรียนอยู่ในห้องเรียนที่แสงสว่างไม่เพียงพอที่สายตาจะต้องปรับการมองเห็น เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันและ 5 วันต่อสัปดาห์ส่งผลต่อสุขภาพสายตาของนักเรียนอย่างมาก จากการสังเกตพบว่า นักเรียนโรงเรียนในเมืองใหญ่มีจำนวนนักเรียนใส่แว่นสายตามากกว่านักเรียนในต่างจังหวัดที่ห้องเรียนใช้แสงธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมอยู่ด้วย เช่น แฟชั่น การตระหนักในการดูแลสุขภาพ และฐานะทางเศรษฐกิจของนักเรียนในเมืองใหญ่เป็นตัวแปรร่วมด้วย
ลดความเมื่อยล้า สายตา ครูอาจารย์และนักเรียน
ส่วนปัญหาสายตาที่เกิดจากการจัดสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนและความเข้มแสงไม่เหมาะสมเกิดความเมื่อยล้าสายตานั้นสามารถแก้ไขได้โดยให้มีการตรวจวัดความสว่างในห้องเรียน ปรับเปลี่ยนหลอดไฟให้แสงสว่างเหมาะสมของแต่ละห้องที่ใช้งานต่างกัน เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และห้องทำงานเฉพาะทาง การเพิ่มลดแสงสว่างโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางสุขภาพสายตาเกิดความเมื่อยล้าสายตาเป็นเวลานาน ๆ ที่เกิดขึ้นแก่นักเรียนและครูอาจารย์นั้นควรมีการทบทวนเพื่อหาความเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมากด้วยการวัดค่าความสว่างมาตรฐานตามความเหมาะสมของแต่ละห้องที่ใช้งานจริง สามารถช่วยลดความเมื่อยล้าสายตาและลดการตัดแว่นสายตาสำหรับครูอาจารย์และนักเรียน อีกทั้งสบายตา สบายใจและมีความสุขกับการเรียนการสอน
Cr.ไทยรัฐ,โมเม บล็อค
No comments:
Post a Comment