Friday, February 16, 2018

เครื่องมือวัดแสง ห้องเรียน

เครื่องมือวัดแสง ห้องเรียน


ห้องเรียนของโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตเมืองใหญ่ปัจจุบันส่วนมากเป็นห้องปรับอากาศโดยการปรับปรุงอาคารเรียนที่ออกแบบตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งไม่ได้ออกแบบไว้ให้เป็นห้องเรียนปรับอากาศ เมื่อมีการปรับปรุงห้องเรียนให้สามารถติดเครื่องปรับอากาศได้ ก็มีความจำเป็นต้องกั้นห้องปิดหน้าต่าง ปิดประตูเพื่อปิดกั้นความร้อนจากภายนอก และใส่หลอดไฟเพื่อให้มีแสงสว่างแทนแสงจากธรรมชาติ และนอกจากนั้นถ้ามีการจัดการเรียนการสอนในเวลาค่ำที่ไม่มีแสงสว่างจากธรรมชาติหรือแสงแดด ไฟส่องสว่างในห้องเรียนจึงเป็นความจำเป็นเพื่อให้เกิดความสบายตาแก่นักเรียนและครูอาจารย์

ความเข้มแสง ที่เหมาะสม แต่ละห้องเรียน
ความสว่างที่เหมาะสมตามมาตรฐาน CIE (International Commission on Illumination) นั้น กำหนดให้ห้องทำงาน สำนักงาน ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องเรียน มีความเข้มแสง 500 ลักซ์ วัดความเข้มแสงได้จาก เครื่องมือวัดแสง ส่วนห้องฝึกงานหรือห้องทำงานเขียนแบบ งานละเอียด 750 ลักซ์ งานชิ้นส่วนเล็ก 1,000 ลักซ์ งานชิ้นส่วนเล็กมาก งานเครื่องมือวัด 1,500 ลักซ์ และงานผ่าตัด 2,000 ลักซ์ เป็นต้น

ปรับความเข้มแสง ห้องคอมพิวเตอร์
สิ่งที่ต้องระวังในเรื่องการให้แสงสว่างในห้องหรือบริเวณที่มีจอคอมพิวเตอร์ ก็คือ ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดแสงสะท้อนขึ้นในจอคอมพิวเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปก็คือ ถ้าติดตั้งหรือให้การส่องสว่างที่ไม่ถูกต้องบางครั้งก็มีแสงสะท้อนให้เห็นรูปโคมในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อ่านข้อความในจอได้ลำบาก วิธีการแก้ไขไม่ให้เกิดแสงดังกล่าวสามารถทำได้หลายอย่างอาทิ เช่น ในห้องที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ควรให้แสงสว่างทั้งแบบโดยตรงและโดยอ้อม ส่วนการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ควรให้ทิศทางการมองเครื่องขนานกับกำแพงหรือไม่ควรวางเครื่องคอมพิวเตอร์ใกล้หน้าต่าง และโคมไฟแสงสว่างไม่ควรวางเหนือเครื่องคอมพิวเตอร์

เพิ่ม ความเข้มแสง ด้วยเหลอดไฟ
เมื่อมีการใส่หลอดไฟและปรับอากาศห้องเรียนอาจทำให้แสงสว่างในห้องเรียนไม่เพียงพอ หรืออาจมีแสงสว่างเกินกว่าที่ควรจะเป็น การดูแลให้ห้องเรียนมีแสงสว่างพอดีกับการเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญซึ่งสามารถคำนวนค่าความเข้มแสงได้จาก เครื่องมือวัดแสงเพื่อช่วยลดปัจจัยสำคัญสำหรับปัญหาทางการมองเห็น ความสบายตาหรือสุขภาพตาของนักเรียนอย่างมาก มีนักเรียนจำนวนหนึ่งต้องใส่แว่นสายตาเพราะห้องเรียนมีแสงสว่างไม่พอหรือแสงสว่างมากเกินไป แล้วมักจะถูกละเลยจากผู้รับผิดชอบสถานศึกษา ที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญความสว่างที่เพียงพอต่อความสบายตาของนักเรียนและครูอาจารย์ในห้องเรียน

แสงสว่างเพียงพอ ถนอมสายตา นักเรียน
การที่นักเรียนต้องเรียนอยู่ในห้องเรียนที่แสงสว่างไม่เพียงพอที่สายตาจะต้องปรับการมองเห็น เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันและ 5 วันต่อสัปดาห์ส่งผลต่อสุขภาพสายตาของนักเรียนอย่างมาก จากการสังเกตพบว่า นักเรียนโรงเรียนในเมืองใหญ่มีจำนวนนักเรียนใส่แว่นสายตามากกว่านักเรียนในต่างจังหวัดที่ห้องเรียนใช้แสงธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมอยู่ด้วย เช่น แฟชั่น การตระหนักในการดูแลสุขภาพ และฐานะทางเศรษฐกิจของนักเรียนในเมืองใหญ่เป็นตัวแปรร่วมด้วย

ลดความเมื่อยล้า สายตา ครูอาจารย์และนักเรียน
ส่วนปัญหาสายตาที่เกิดจากการจัดสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนและความเข้มแสงไม่เหมาะสมเกิดความเมื่อยล้าสายตานั้นสามารถแก้ไขได้โดยให้มีการตรวจวัดความสว่างในห้องเรียน ปรับเปลี่ยนหลอดไฟให้แสงสว่างเหมาะสมของแต่ละห้องที่ใช้งานต่างกัน เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ และห้องทำงานเฉพาะทาง การเพิ่มลดแสงสว่างโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางสุขภาพสายตาเกิดความเมื่อยล้าสายตาเป็นเวลานาน ๆ ที่เกิดขึ้นแก่นักเรียนและครูอาจารย์นั้นควรมีการทบทวนเพื่อหาความเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมากด้วยการวัดค่าความสว่างมาตรฐานตามความเหมาะสมของแต่ละห้องที่ใช้งานจริง สามารถช่วยลดความเมื่อยล้าสายตาและลดการตัดแว่นสายตาสำหรับครูอาจารย์และนักเรียน อีกทั้งสบายตา สบายใจและมีความสุขกับการเรียนการสอน

Cr.ไทยรัฐ,โมเม บล็อค

เครื่องมือวัดแสง ใน ห้องทำงาน

เครื่องมือวัดแสง ใน ห้องทำงาน


การมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวของเราถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกิจกรรมประจำวันตั้งแต่ตื่นเช้า การดำเนินกิจกรรม ส่วนตัว ทำอาหารในห้องครัว การเดินทาง การทำงาน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ และอีกมากมายที่ต้องใช้สายตามองเพื่อให้เกิดประโยชน์ กับการดำเนินชีวิต การมองเห็นอย่างชัดเจนถูกต้อง และเกิดความสบายตา ควรมีการจัดแสงสว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการดำเนินกิจกรรมของตน โดยแสงสว่างต้องมีปริมาณความเข้มข้นแสง ที่เหมาะสม มีคุณภาพสำหรับการมองเห็นที่ดี

ความเข้มแสง & การอ่านเอกสาร
แสงสว่างที่เหมาะต่อการอ่านเอกสารในห้องทำงาน ตามหลักวิชาการจะเรียกว่าดูความเข้มแสงที่เพียงพอต่อการอ่าน โดยจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) วัดปริมาณแสง ในหน่วย Lux (ลักซ์) ซึ่งจะวัดความเข้มแสงออกมาเป็นตัวเลข โดยความเข้มแสงที่เหมาะกับการทำงาน เช่น อ่านเอกสารในห้องทำงานจะอยู่ที่ 300-500 Lux (ลักซ์) ดังนั้น เวลาอ่านหนังสือในแสงสว่างปกติ ที่ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไปจะดีที่สุด อาจจะอยู่ในร่มที่ไม่มีแดดส่องมาโดน หรืออ่านเอกสารในห้องทำงานตอนกลางคืน อาจจะต้องเปิดโคมไฟส่องเวลาอ่านหนังสือ

ความเข้มแสง & การมองเห็น
การจัดการความเข้มของแสงสว่างที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน แสงสว่างที่น้อยหรือมาก เกินไป หรือ แสงจ้า ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป เกิดความเมื่อยล้า กล้ามเนื้อหนังตากระตุก ปวดตา มึนศีรษะ นอนไม่หลับ ความสามารถในการมองเสื่อมลงเป็นผลให้เกิด อุบัติเหตุในการทำงาน การมองเห็นอย่างชัดเจนถูกต้อง และเกิดความสบายตา ควรมีการจัดแสงสว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการทำงานของพนักงาน โดยแสงสว่างต้องมีปริมาณความเข้มข้นแสงที่เหมาะสมเพียงพอและมีคุณภาพสำหรับการมองเห็นทีดี ที่เราสามารถวัดความเข้มแสงที่เหมาะสม ด้วย เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter)

ความเข้มแสงที่เหมาะสม ห้องทำงาน 
-ห้องสุขา 100 ลักซ์
-ห้องประชุม 300 ลักซ์
-โรงอาหาร 200 ลักซ์
-ห้องคอมพิวเตอร์ 400 ลักซ์
-ห้องเก็บของ 50-200 ลักซ์
- ห้องพักฟื้น 50 ลักซ์
- ห้องตรวจรักษา 400 ลักซ์
- ห้องถ่ายเอกสาร 300 ลักซ์
- ห้องนิรภัย 100 ลักซ์
- ห้องจองตั๋วหรือห้องขายตั๋ว 400 ลักซ์

เพิ่มความเข้มแสง ด้วย หลอดไฟ
แสงสว่างนั้นมีผลกระทบต่อพนักงาน กรณี แสงสว่างน้อยเกินไป จะมีผลเสียต่อนัยน์ตา ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของนัยน์ตาที่ต้องเพ่งชิ้นงาน ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะ มึนศรีษะได้ และในกรณีความเข้มแสงมากเกินไป จะทำให้พนักงานเกิดความไม่สบาย เมื่อยล้า ปวดตา กล้ามเนื้อตากระตุก ซึ่งทั้งแสงสว่างมากไปน้อยไป จะทำให้เกิดผลเสียทางสายตาแล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุในการทำงานขึ้นได้ด้วย แสงธรรมชาติเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงควรตรวจสอบความเพียงพอของระบบไฟส่องสว่างในพื้นที่สำนักงาน ด้วย เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) ถ้าไม่เพียงพออาจจำเป็นต้องเพิ่มความสว่างในห้องทำงานด้วยการติดหลอดไฟส่องสว่างเพิ่ม

Cr.วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ

เครื่องมือวัดแสง ที่ทํางาน

เครื่องมือวัดแสง ที่ทํางาน



เนื่องจากที่ทำงานด้านเอกสารจะต้องใช้สายตาอย่างมาก เมื่อมีความเข้มของการส่องสว่างที่ไม่เพียงพอจะทำให้สายตาต้องปรับขยายรูม่านตาเพื่อเปิดรับแสงให้เข้ามามากขึ้น กล้ามเนื้อรอบดวงตาก็จะต้องทำงานหนัก ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของสายตา เพราะการที่ต้องทำงานโดยใช้สายตาเป็นเวลานานก็มีผลต่อสุขภาพสายตาอยู่แล้ว หากมีปัจจัยอื่น เช่น แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การทำงานที่ต้องใช้สายตาในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ยังจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไม่มีสมาธิในที่ทํางาน เกิดความเครียดในการทำงาน เป็นต้น

ลักซ์ ( Lux) ความเข้มแสง
ดังนั้นเราควรวัดความเข้มแสงซึ่งมีหน่วยเป็น ลักซ์ ( Lux) ที่จำเป็นเพื่อให้เหมาะสมกับที่ทํางานของคุณอย่างเห็นได้ชัดขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่กำลังทำ ความเข้มแสง (ลักซ์ ( Lux)) วัดได้ด้วย เครื่องมือวัดแสง ที่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่าง ระบบแสงสว่างที่ดี ต้องให้แสงที่พอเหมาะสมกับชนิดของงานที่ทำ และมีความสมํ่าเสมอของแสงสว่าง ไม่ใช่บางจุดก็มืด บางจุดก็สว่างจ้า นอกจากนี้เพดาน ผนัง และพื้นก็ต้องช่วยลดความจ้าของแสงด้วย เพราะแสงที่จัดจ้าจนเกินไป ไม่ว่าจะมาจากโคมไฟโดยตรง หรือเกิดจากการสะท้อนแสง ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายกับดวงตาอันบอบบางของเราทั้งสิ้น ปกติแล้ว งานแต่ละชนิดจะมีความจำเป็นในการใช้แสงสว่างที่แตกต่างกันออกไป

เครื่องมือวัดแสง ในที่ทำงาน
การใช้เครื่องมือวัดความเข้มแสงในบริเวณนั้นๆ เพื่อตรวจสอบแสงสว่างภายในอาคาร บริเวณสถานที่ทำงาน เช่น สายงานการผลิตในโรงงาน หรือ ห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล ซึ่งต้องให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะสมและมีความปลอดภัยต่อสายตาพนักงาน การวัดความเข้มแสงและปริมาณแสงจึงควรมีอุปกรณ์วัดความเข้มแสง หรือที่เรียกว่า เครื่องวัดแสง (Lux Meter) เป็นอุปกรณ์สำหรับวัดความสว่างเฉพาะความเข้มที่ปรากฏในสายตาของมนุษย์ อาทิ เช่น ถ้าเป็นงานพิมพ์เอกสาร การเขียน การอ่าน จะต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่า 400 ลักซ์ และสำหรับห้องคอมพิวเตอร์ งานบันทึกข้อมูลและบริเวณที่แสดงผลข้อมูล (จอคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์) จะต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่า 600 ลักซ์ ถ้ามีความสว่างไม่เพียงพอ จะเกิดความรู้สึกตาพร่า เวียนศีรษะ บางรายมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ทำให้ไม่มีสมาธิในที่ทํางาน

ความเข้มแสง ที่เหมาะสม ในที่ทำงาน
- ขนย้าย บรรจุ บด เกลี่ยวัตถุ ความเข้มแสงไม่ควรน้อยกว่า 50 ลักซ์
- การผลิตหรือประกอบชิ้นงานหยาบ ๆ การสีข้าว ความเข้มแสงในบริเวณนั้นไม่ควรน้อยกว่า 100 ลักซ์
- เย็บผ้า ควรมีแสงสว่างบริเวณนั้นไม่น้อยกว่า 200 ลักซ์
- สถานที่ทำงานที่ต้องการความละเอียดเป็นพิเศษ เช่น เจียรนัยเพชรพลอย ควรมีความเข้มแสงอย่างน้อย 1000 ลักซ์
- ถนน ทางเดิน เฉลียง ควรมีความเข้มแสง ไม่น้อยกว่า 50 ลักซ์ เป็นต้น

ความเข้มแสง ห้องสัมมนา ห้องเรียน
นอกจากนี้ห้องเรียน ห้องสัมมนาก็เช่นกัน การทำงานเอกสารที่มีความสว่างน้อยเกินไปก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสายตาได้เนื่องจากจะต้องเพ่งสายตาเป็นเวลานาน เช่นการอ่านหนังสือ การเขียนหนังสือในที่ที่มีแสงน้อยๆ จะทำกล้ามเนื้อตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงต้องอ่านหนังสือและเขียนหนังสือในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ เช่นมีการกำหนดความสว่างสำหรับห้องเรียน ห้องสัมมนาไว้ 300-700 Lux เป็นต้น ความสว่างที่เหมาะสมในสถานที่ต่างๆ จึงมีความสำคัญมากต่อการทำงาน เป็นการถนอมสายตาแก่พนักงาน จึงควรวัดความเข้มแสงด้วย เครื่องมือวัดแสง เพื่อกำหนดความสว่างที่เหมาะสมไว้ จะต้องให้แสงสว่างเพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าที่ทํางานและการอบรมที่ต้องใช้สายตากับเอกสารเหมาะสมและสบายแก่สายตา ที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพสายตาของพนักงาน

Cr.EUafp,Stou